สาวๆหลายคนผ่านการดัด ย้อม ยืด everything จิงกาเบลกับเว้นผม กว่าจะรู้ตัวผมก็ฟูฟ่องดั่งโดนไฟดูด ยังไม่สายเกินไปที่จะหันมาดูแลเส้นผมของเราเพราะเป็นความประทับใจแรกเห็นของคุณหนุ่มๆเขาล่ะ
1.เติมพลังผมสวยด้วยวิตามิน
สุขภาพเส้นผมที่สวยเงางามล้วนต้องการการบำรุงเป็นพิเศษจากวิตามินเอ อีและบี 5 เคราตินและเชียร์บัตเตอร์เพื่อช่วยขจัดสารพิษตกค้างในเส้นผม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเป็นเงางามให้แก่เส้นผมด้วยการล็อคความเปล่งประกาย ทำให้เส้นผมสุขภาพดีแข็งแรง แนะนำให้สาวๆ ใช้ผู้ช่วยขวดจิ๋วที่มาในรูปแบบของสเปรย์เพื่อช่วยขจัดสารพิษตกค้างอันเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มากเกิน
2. มาส์กบำรุงฟื้นฟูสภาพเส้นผม
การเติมอาหารบำรุงผมล้วนเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพผมอยู่แล้ว และแน่นอนว่าการมาส์กผมคือการทรีทเมนต์เพื่อเยียวยาเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมามีชีวิตชีวาเงางามได้ดีอีกครั้ง ดังนั้น สาวๆ ควรหมั่นมาส์กผมสัปดาห์ละครั้ง ในขณะที่คุณมาส์กผมสามารถใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดไปพร้อมกันได้ จากนั้นจึงสวมหมวกคลุมผมเอาไว้ รอประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก เส้นผมก็จะเรียบลื่น นุ่มสลวยสมใจเลยทีเดียว
3. หลีกเลี่ยงซัลเฟต ซัลฟูริก แอซิด
เวลาที่สาวๆ สระผมแล้วพบว่าแชมพูนั้นๆ มีฟองฟูหนานุ่มชวนให้รู้สึกว่ายิ่งสระจะยิ่งสะอาดมากยิ่งขึ้น แต่แท้จริงแล้ว มันคือสารซัลเฟต ซัลฟูริก แอซิดที่ผสมกับแชมพูเพื่อเพิ่มปริมาณฟองในขณะที่สระนั่นเอง แต่หากเป็นไปได้ แนะนำให้สาวๆ หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่มีฟองเยอะ เพราะมันจะยิ่งทำให้เส้นผมและหนังศีรษะของคุณมีอาการระคายเคือง แห้ง ฟูมากกว่าเดิมนั่นเอง ดังนั้น หันไปเลือกใช้แชมพูที่มีซัลเฟตน้อยจะดีกว่าอีกทั้งในเรื่องของความสะอาดหลังสระก็มีดีไม่เป็นรองใครเช่นเดียวกัน
4. ใช้ความร้อนแต่เพียงพอดี
สาวๆ หลายคนมักชอบทำผมกันบ่อยๆ และมักใช้อุณหภูมิในการทำผมสูงเกิน 200 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ค่อนข้างทำร้ายเส้นผมอย่างมาก ทำให้เส้นผมเสียความชุ่มชื้น แห้งกรอบและเกิดปัญหาผมแตกปลายได้ง่ายทีเดียว ดังนั้น หันมาทำผมด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการถักเปียหรือทำผมโดยใช้ความร้อนแต่เพียงพอน่าจะดีกว่า
5. นวดผ่อนคลายหนังศีรษะ
การนวดหนังศีรษะบ้างจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะหมุนเวียนดี ทำให้รากผมได้รับสารอาหารไปหล่อเลี้ยงรากผมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังส่งผลให้เกิดความผ่อนคลายตามมาอีกด้วย การนวดก็ไม่ยากเพียงนวดด้วยปลายนิ้วกลางและนิ้วนาง กดน้ำหนักลงบนส่วนที่ต้องการนวด โดยไล่นวดบริเวณขมับสองข้าง ท้ายทอยและต้นคอ การนวดที่ดีควรนวดให้ศีรษะเราขยับไปพร้อมกัน เพราะนับเป็นการลงน้ำหนักได้อย่างทั่วถึงดีทีเดียว
6.เลือกใช้แปรงขนแบบธรรมชาติ
แน่นอนว่าการแปรงผมก็ช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะของเราได้รับการกระตุ้นรากผมให้แข็งแรงได้ดีเช่นเดียวกัน แนะนำให้สาวๆ ลงทุนซื้อแปรงขนแบบธรรมชาติไว้ใช้สักอัน มากกว่าการแปรงผมด้วยแปรงเนื้อแข็งกระด้างทั่วไป การหมั่นแปรงผมด้วยแปรงที่เหมาะสมถูกวิธีนอกจากเป็นการถนอมสุขภาพเส้นผมไม่ให้ยิ่งแห้งฟูแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นรากผมและให้น้ำมันบนหนังศีรษะกระจายได้ทั่วถึงกันอีกด้วย
7. สุดยอดผักใบเขียวบำรุงเส้นผม
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเส้นผมแนะนำไว้ว่าการทานผักเยอะๆ อย่างบล็อกโคลี่ ผักโขมและกะหล่ำปลีซึ่งอุดมด้วยวิตามินเอ ซี อีและแคลเซียม มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหารและยังกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการบำรุงสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง เงางามอย่างเป็นธรรมชาติได้ดีอีกด้วย
8. ควรเลิกใช้สเปรย์แต่งผม
แนะนำให้สาวๆ หยุดใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมสักเดือน แต่หันมาแต่งผมในแบบธรรมชาติอื่นๆ ด้วยการใช้มือของเราตกแต่งพร้อมกับติดกิ๊บ แค่นี้ก็ทำให้ทรงผมได้รูปทรงวอลลุ่มอย่างต้องการ สวยเด่นเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นการทำร้ายเส้นผมได้ด้วยนะ
9. หมั่นเล็มปลายผมเป็นประจำ
การหมั่นเล็มปลายผมเป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเส้นผมแตกปลายตามมา และคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของเส้นผมได้ดีอีกด้วย ดังนั้น ยิ่งหากสาวๆ ไว้ผมยาวมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงที่ผมจะแตกปลายมากขึ้นเท่านั้น แนะนำให้หมั่นเล็มปลายผมและทรีทเมนต์ผมเข้าไว้ อย่างไรก็ต้องมีเส้นผมสวย เงางามมีน้ำหนักเป็นไปแบบธรรมชาติแน่นอน
10. ผมสวยด้วยการดื่มชาตำแย
การดื่มชาตำแยเป็นประจำจะช่วยทำความสะอาดสารพิษจากร่างกาย โดยส่วนมากพืชพรรณชนิดนี้ก็ได้ถูกนำไปสกัดเพื่อเป็นสารบำรุงในแชมพูสระผมด้วยเช่นเดียวกัน เพราะมันมีหน้าที่ช่วยดีท็อกซ์เส้นผมและหนังศีรษะ แต่หากเราหมั่นดื่มบ้างก็จะสามารถช่วยขจัดสารพิษส่วนเกินออกมาได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ เส้นผมของคุณที่เคยหยาบกระด้างจะได้คืนสภาพนุ่มสลวย เงางามและมีน้ำหนักจัดทรงง่ายอีกครั้ง