สิวเกิดได้หลายสาเหตุ แต่การรักษาหรือการทำความสะอาดที่ผิดจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการอุดตันของผิวหน้าและทำให้สิวเห่อมากขึ้น มาทำความเข้าใจกับการดูแลรักษาสิวกันค่ะ
ลักษณะของสิว
1. สิวไม่อักเสบ หรือสิวอุดตันมีลักษณะเป็นตุ่มมีหัวสีดำ เรียกว่า “สิวหัวดำ” หรือสิวหัวเปิด ถ้าตรงกลางมองเห็นเป็นสีขาว เรียกว่า “สิวหัวขาว” หรือสิวหัวปิด
2. สิวอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มแดงตุ่มหนอง หรือสิวหัวช้างขนาด ต่างๆ กัน มีอาการเจ็บมาก บางรายเป็นมากอาจมีไข้สูงได้
สาเหตุการเกิดสิว
1. อิทธิพลของฮอร์โมน เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นฮอร์โมนเพศมีระดับสูงขึ้นจะกระตุ้นต่อมไขมันบนใบหน้า ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สร้างไขมันมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดการอุดตันและอักเสบตามมา นอกจากนี้ ภาวะที่มีฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงมีประจำเดือนหรือช่วงตั้งครรภ์ก็มักเกิดสิวขึ้นได้
2. เชื้อแบคทีเรีย P.ACNE เมื่อมีการเพิ่มจำนวนขึ้นก็จะก่อให้เกิดสิวอักเสบขึ้นได้
3. ภาวะจิตใจ และอารมณ์ ความเครียดต่างๆ การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจทำให้สิวเป็นมากขึ้น
4. การล้างหน้ามากเกินไป และใช้สบู่ที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดการอุดตันของรูขุมขน และการใช้เครื่องสำอางบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดสิว เช่น ครีมบำรุงผิว, น้ำมันใส่ผม
5. ยารับประทานบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยารักษาวัณโรค ยาแก้แพ้ต่างๆ และสารกระตุ้นบางชนิด เป็นต้น
6. อื่นๆ เช่น สิวจากการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น
การดูแลรักษาสิวทั่วไป
1. ควรล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนๆ วันละ 2 ครั้ง ถ้าใบหน้ามันมาก อาจล้างหน้าหรือใช้กระดาษซับมันตอนกลางวัน
2. ไม่ควรกดหรือบีบหัวสิวเพราะจะทำให้สิวเกิดการอักเสบมากขึ้น
3. ควรใช้เครื่องสำอางชนิดที่ได้มาตรฐานผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อสิว
4. รับประทานอาหารได้อย่างปกติ นอกจากในบางรายที่มีประวัติแน่ชัดว่า สิวเป็นมากขึ้นจากอาหารบางประเภท
5. พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การรักษาสิว
1. ใช้ยาทาเฉพาะที่หรือยารับประทานตามที่แพทย์สั่ง
2. ใช้เครื่องมือกดสิวช่วย กรณีเป็นสิวอุดตันมาก
3. กรณีที่เป็นสิวหัวใหญ่ การฉีดยาลดการอักเสบเข้า หัวสิว ช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้นได้
4. รอยดำจากสิว, รอยแผลเป็นจากสิว รักษาได้หลาย วิธี เช่น การใช้ยาทา, การทำ AHA ทรีทเม้นต์, การทำไอออนโต,การฉีดสารคอลลาเจน หรือการใช้แสงเลเซอร์ ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะของรอย ดำว่าเหมาะกับวิธีใด