ปัญหาสิว เป็นเรื่องน่ารำคาญมากกกก แถมยังเป็นปัญหาในเรื่องของความสวยความงามอันดับ 1 เลยนะคะ ต่อให้รักษาความสะอาดยังไง ทุกคนยังเป็นอยู่ดี T^T #ร้องไห้หนักมาก
เพราะปัญหาสิวเป็นเรื่องใหญ่ของหลายๆสาว ต้องมีการดูแลกันอย่างจริงจัง แต่แล้วก็ต้องเจอกับคำว่า Benzac , Differin , Retin-A … มันคืออะไรหว่า?? แล้วเป็นสิวแบบไหน ต้องใช้ตัวไหนรักษา? มันต่างกันยังไง? แต่ละตัวมีข้อเสียยังไง? โหยสารพัดคำถามเลยค่ะ -*- แบบนี้ ลิตาว่า เรามารู้จักกับ Benzac , Differin , Retin – a กันดีกว่าค่ะ ว่ามันคืออะไร
Benzac , Differin , Retin-A คืออะไร
มาเริ่มรู้จักกันก่อนนะคะ ทั้ง Benzac (เบนแซค) , Differin (ดิฟเฟอริน) และ Retin-a (เรตินเอ) เป็นยาใช้ทารักษาสิวค่ะ แต่ทั้ง 3 ตัวนี้มีความแตกต่างกันค่ะ ที่เราจะต้องรู้ ก่อนที่จะเลือกใช้ มารู้จักกับยารักษาสิว ทั้ง 3 ตัวกันเลยค่า
Benzac AC ใช้รักษาสิวแบบไหน
image medixpharma.com
สำหรับ Benzac AC เป็นยาทารักษาสิว ที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide ซึ่งยาตัวนี้ จะออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อสิว P. acne ที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบได้ดีกว่า
ดังนั้น เบนแซค เหมาะกับการรักษาสิวอักเสบมากที่สุดค่ะ เพราะจะช่วยฆ่าเชื้อสิว และไม่ทำให้สิวดื้อยาในภายหลังด้วย นอกจากนี้ยังช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้มีส่วนช่วยในการเกิดสิวอุดตันได้บ้าง แต่อาจจะไม่เต็มร้อยเหมือนที่ใช้ในการรักษาสิวอักเสบค่ะ
Benzac AC มีขนาดความเข้มข้น 2 ขนาดคือ ระดับความเข้มข้น ที่ 2.5 % และขนาดความเข้มข้น 5 % แล้วควรจะเลือกใช้ความเข้มข้นขนาดไหนดี?
โดยสำหรับสาวๆ ที่เพิ่งเคยใช้ Benzac AC ควรเริ่มใช้ความเข้มข้นขนาด 2.5% ก่อนค่ะ เพราะยาตัวนี้ อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง อย่างผิวหนังลอก บวมแดง แสบ และผิวหน้าไหม้ได้ ดังนั้น จึงควรเริ่มต้นจากความเข้มข้นอ่อนๆ เพื่อให้ผิวหนังชินกับตัวยาก่อนค่ะ ถึงจะพัฒนาไปใช้ความเข้มข้น 5 % ได้ แต่ถ้าไปหาหมอ หมออาจจะสั่งให้ใช้ 5% ที่เป็นขนาดที่จะทำให้สิวหายเร็ว แต่สาวๆ ก็ต้องปฏิบัติตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัดค่ะ โดยระยะเวลาที่เห็นผลของการใช้ยา Benzac AC คือ 2 – 4 สัปดาห์ ที่จะเห็นผลว่า สิวยุบ หรือหายค่ะ
วิธีใช้ Benzac AC
image www.youtube.com
สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งเริ่มใช้นะคะ ควรใช้ก่อนล้างหน้า 5 – 15 นาที อย่างที่บอกค่ะ ยาตัวนี้ ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ไม่ควรทายาตัวนี้เกิน 30 นาทีเด็ดขาดค่ะ เพราะจะทำให้หน้าลอกและระคายเคืองได้ ทายา Benzac AC บางๆ ในบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ หลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นเนื้ออ่อนๆ อย่างที่รอบดวงตา ริมฝีปาก และจมูก เพราะจะทำให้ระคายเคืองได้ง่ายสุดๆ หลังจากทาครบเวลาแล้ว 5 – 15 นาทีก็ล้างออกด้วยโฟมล้างหน้าสูตอ่อนโยน และไม่ควรใช้โฟมล้างหน้า ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หลังจากล้างหน้าแล้ว ก็สามารถทาครีมที่เป็นสูตรอ่อนโยนต่อได้เลยค่า
ผลข้างเคียงจาก Benzac AC
อาจจะมีอาการระคายเคืองอย่างแสบร้อน ผิวบริเวณที่แต้มครีมจะมีอาการหลุดลอกออก แล้วถ้ามีอาการอย่างที่กล่าวมาในระดับที่ทนไม่ได้ ต้องไปพบแพทย์นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก acnedefend.blogspot.com , happyacne2you.blogspot.com , pantip.com
Retin-a ใช้รักษาสิวแบบไหน
image punyarx.com
Retin-a เป็นยาทารักษาสิว ที่มีส่วนผสมของ กรดวิตามินเอ ที่จะช่วยลดความมันบนใบหน้า ใช้ดีมากกับสิวอุดตัน และสิวอุดตันแบบที่ไม่มีหัว และสิวฝังในได้เป็นอย่างดี โดยเรตินเอ จะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า และผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำออก แถมยังช่วยเร่งสิวที่อยู่ใต้ผิวหนัง ให้โผล่หัวสิวออกมา ทำให้เรตินเอ เป็นที่นิยมมาก ในการทารักษาสิวอุดตัน และสิวที่หัวฝังอยู่ใต้ผิวหนัง
แต่เรตินเอ ก็มีข้อควรระวัง ที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้ คือ การทาเรตินเอ ไม่ควรโดนแสงค่ะ เพราะเรตินเอ มีความไวต่อแสงมาก ถ้าโดนแสง จะทำให้ผิวหน้า ลอก แสบ แดง ไหม้ ได้เลยนะคะ โดยระดับความแรงของยาเรตินเอ จะมี 2 ระดับนะคะ คือ เรตินเอประกอบด้วยตัวยา tretinoin 0.025% และ 0.05% โดยการใช้ในระยะเริ่มต้น ให้เริ่มที่ระดับ 0.025 ก่อนนะคะ เพราะในการใช้เริ่มแรก อาจจะมีหน้าลอก หน้าแดง ใช้ไปนานๆ ผิวจะปรับตัวให้เข้าที่เองค่ะ
วิธีใช้ Retin-A
เรตินเอ เป็นยารักษาสิวแบบ สิวอุดตันได้ดีที่สุด แต่ก็มีความไวต่อแสงมากด้วย ดังนั้น ไม่ควรโดนแสงในระหว่างใช้ เรตินเอค่ะ แต่ควรทาเรตินเอก่อนนอน โดย ล้างหน้าให้สะอาดค่ะ เช็ดหน้าให้แห้ง แล้วทาเรตินเอบางๆ ย้ำว่าบางๆค่ะ ก่อนจะนอน ที่สำคัญคือ เมื่อตื่นนอนแล้ว ก็ให้รีบล้างหน้า และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และ AHA โดยเด็ดขาดค่ะ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองขึ้นไปอีก
ผลข้างเคียงจาก Retin-A
จะมีอาการคล้ายกับ เบนแซคค่ะ คือ ผิวลอก แสบร้อน และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงใช้ในบริเวณที่เป็นสิวอักเสบค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.dek-d.com , acnedefend.blogspot.com
Differin ใช้รักษาสิวแบบไหน
image sharedreviews.com
Differin เป็นชื่อการค้าของ Adapalene 0.1% ใช้ทารักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ในระยะที่เป็นน้อยถึงปานกลาง โดยมีฤทธิ์ต้านการแบ่งเซลล์ ทำให้ลดการอักเสบของสิวได้ เนื้อยาจะละลายในต่อมไขมันที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ดี คล้ายกับ เรตินเอ
เพราะดิฟเฟอริน ได้พัฒนาต่อจากเรตินเอ ทำให้ Differin ต่างจาก Retin-A ที่มีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบจึงทำให้การใช้ Retin-Aเกิดอาการระคายเคืองผิวได้มากกว่า แต่ Differin จะระคายเคืองผิวน้อยกว่า
วิธีการใช้
ใช้เหมือนเรตินเอค่ะ คือทาบางๆ วันละ 1 ครั้งก่อนนอน และหลีกเลี่ยงการโดนแสง รวมถึงแสงของหลอดไฟด้วยค่ะ
ผลข้างเคียงจาก Differin
แผลผุพอง , ผิวแห้ง , ผื่นแดง , คัน , ผิวหนังตกสะเก็ด ควรหลีกเลี่ยงการทาบริเวณดวงตา ริมฝีปาก จมูก และ บริเวณเยื่อบุผิว
ขอบคุณข้อมูลจาก topicstock.pantip.com , acnedefend.blogspot.com , drug.pharmacy.psu.ac.th , www.skinanswer.org
สรุป
Benzac ใช้ในสิวอักเสบ จะเห็นผลมากที่สุด โดยใช้เบนแซค 5 – 10 นาทีก่อนล้างหน้า วันละ 2 ครั้ง
Ratin-A ใช้ในสิวอุดตัน , สิวอุดตันใต้ผิวหนัง ได้ผลดี มากที่สุด และใช้ เรตินเอทาบางๆ วันละ 1 ครั้งก่อนนอน
Differin ใช้ในสิวอักเสบ และสิวอุดตัน ที่เป็นในระยะปานกลางได้ผลดีมากที่สุด และอ่อนโยนมากกว่าเบนแซคและเรตินเอ และตอนใช้ ให้ใช้เหมือนเรตินเอ คือทาบางๆ วันละ 1 ครั้งก่อนนอนค่ะ
- ใน Retin-A และ Differin สตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาเภสัชกร ก่อนใช้ด้วยนะคะ
- ยารักษาสิว ทั้ง 3 ตัว มีความไวต่อแสงมาก ดังนั้น ระหว่างที่ใช้ยา ควรหลีกเลี่ยงจากแสงแดดแรงๆ และควรใช้ครีมกันแดด ปกป้องด้วยค่ะ
- ผลข้างเคียงของยาทั้ง 3 ตัว เช่น การแสบร้อน ผิวไหม่ ผิวลอก ผิวแห้ง เป็นปฏิกิริยา ที่ยาทำงานกับผิวในช่วง 1 เดือนแรกที่ใช้ยา ถ้าทนได้ สิวจะหาย แต่ถ้าทนไม่ได้ ต้องไปพบแพทย์ค่ะ เพราะแปลว่าคุณแพ้ยาแล้ว
- ทั้ง 3 ชนิด สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา , ร้านขายยาตามห้าง , Watson , Boots เป็นต้นค่ะ
เป็นไงบ้างคะ? พอจะเป็นประโยชน์กับสาวๆบ้างนะคะ สำหรับการรู้จักตัวยารักษาสิวทั้ง 3 ตัวนี้ ดังนั้น ก่อนจะไปซื้อยามาใช้เอง สาวๆ ต้องรู้รายละเอียด ของตัวยานั้นๆเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น ส่วนผสม ประโยชน์ วิธีใช้ และผลข้างเคียง รู้แล้ว ก็ค่อยไปซื้อมาใช้นะคะ และถ้าจะให้ดี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ด้วยค่ะ จะได้สวยแบบไม่เกิดปัญหาทีหลัง เพราะความสวยนั้นรอไม่ได้ค่ะ จุ๊บ <3