สาวๆ ขาช้อปเครื่องสำอางทั้งหลาย ลองเปิดกรุของตัวเองดูซิคะ ว่ามีเครื่องสำอางนอนกองทั้งใช้และไม่ใช้มีอยู่กี่ชิ้น เคยนึกเอะใจมั้ยน้า…ว่าเหล่าเมคอัพเหล่านี้ มีตัวไหนที่หมดอายุแล้วบ้าง ใครมีเซ้นส์ดีหน่อยคงพอจะได้กลิ่นตุๆ กันบ้างล่ะ บางคนซื้อมานานแล้วใช้ไม่หมดซ้ากที ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง แต่ก็ใช้มาตลอดหลายปี อันนี้ก็นานเกิ๊นนะคะ เราลองมาเช็คกันดีกว่าว่าจะมีสัญญาณอะไรเตือนบ้างว่าเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่มีตัวไหนที่ต้องรีบโยนทิ้งแล้วบ้าง เดี๋ยวจะหน้าพังไม่รู้ตัวน้า…
รองพื้น
รองพื้นส่วนมากจะมีส่วนผสมของน้ำมัน วิธีที่สาวๆ สามารถสังเกตได้ง่ายๆ เลยคือ ถ้าตัวเนื้อครีมมีการแบ่งตัวแยกชั้นกับน้ำมัน ต่อให้ลองเขย่าๆ ขวดแล้วก็เอาไม่อยู่ ลองดมดูก็จะได้กลิ่นเหม็นหืนของน้ำมันฉุนขึ้นจมูก แบบนี้ก็ต้องทิ้งแล้วล่ะ โดยปกติอายุของรองพื้นจะอยู่ได้ที่ 1 ปีนะคะ ถ้านานกว่านี้แล้วยังใช้ไม่หมด อย่าไปเสียดายเลยค่ะ ทิ้งเถ๊อะ!!
ลิปสติก
สาวๆ คนไหนใช้ลิปสติกจนหมดแท่งบ้างคะ ใครทำได้เนี่ยเจ๋งสุดๆ เพราะสาวๆ คลั่งเมคอัพอยากเราๆ คงมีลิปสติกหลายแท่งไว้ครอบครองอย่างแน่นอน ถ้าจะใช้ให้หมดซักแท่งนึงคงยากเลยล่ะ นอกจากจะเป็นสีโปรดจริงๆ ดังนั้นจำเป็นมากเลย ที่ต้องเช็คว่าแท่งไหนหมดอายุแล้วบ้าง โดยดูจากเนื้อลิปสติกและสีเริ่มเปลี่ยน รวมทั้งกลิ่นที่เริ่มระแคะระคายจมูก ทำให้ฟุดฟิดจนน่าสงสัย อันนี้ต้องรีบตัดใจทิ้งลูกรักสุดหวงเลยค่ะ T_T
มาสคาร่า
อันนี้ตัวดีเลยจ้าที่ต้องคอยเช็ค เพราะแปรงปัดมาสคาร่าเป็นแหล่งรวมของแบคทีเรีย ยิ่งเราต้องเอามาสัมผัสบริเวณที่ใกล้กับดวงตาแล้ว สาวๆ จึงต้องให้ความสำคัญในการดูแลรักษาดวงตาด้วยน้า และขณะเปิดใช้มาสคาร่าก็ไม่ควรดึงเข้าดึงออก ปั๊มขึ้นปั๊มลงตล๊อดๆ ทำแบบนี้อากาศจะเข้าไปข้างใน นอกจากจะทำให้เชื้อโรคเข้าไปแล้ว ยังทำให้มาสคาร่าแห้งเร็วและจับตัวเป็นก้อน เป็นสาเหตุให้ใช้ได้ไม่นานด้วยน้า…
อายไลเนอร์ชนิดน้ำ
ลักษณะการดูว่าหมดอายุรึเปล่าจะคล้ายกับมาสคาร่าเลยค่ะ ถ้ามันเริ่มแข็งตัวจากน้ำกลายเป็นก้อน ก็ใช้ไม่ได้เลยล่ะ แต่สมิทตี้เชื่อว่าสำหรับอายไลเนอร์ สาวๆ ต้องใช้มันหมดก่อนจะหมดอายุแน่นอน
อายแชโดว์
เพื่อให้ดวงตาของเรามีสีสัน อายแชว์โดว์เราจะขาดไม่ได้เลยล่ะ ส่วนอายุการใช้งานของมันก็ตั้ง 2 ปีเลยนะ หลังจากการเปิดใช้ครั้งแรก แต่หากเป็นบลัชออนเนื้อครีมต้องระวังอย่าใช้มือในการสัมผัสครีม แล้วเอามาทาที่หน้า (ถึงแม้ว่าเราจะถนัดแบบนี้ก็ตาม) เพราะเชื้อโรคมากมายกำลังรออยู่แน่นอน ควรใช้แปรงจะดีกว่านะคะ
วิธีสังเกตง่ายๆ อีกอย่างนึงคือดูวันที่ผลิตและวันหมดอายุบนตัวเครื่องสำอาง แต่หากใช้นานเกิ๊นจนตัวเลขมันเลือนลางจางหายไปแล้ว ก็ใช้วิธีที่สมิทตี้แนะนำเลยค่ะ อย่าลืมว่านอกจากเราจะสวยแล้ว ต้องสวยอย่างปลอดภัยด้วยน้า อย่าเสียดายกับเครื่องสำอางค์ที่หมดอายุเลย ถึงแม้ราคาจะแพงแค่ไหนก็เทียบไม่ได้กับใบหน้าของเรานะคะ ไม่งั้นเครื่องสำอางลูกรักของเราอาจมาแทงข้างหลังทำให้หน้าพัง แบบนี้จะเจ็บปวดไปอีกนานเลย และยังใช้เวลารักษานานอีกด้วย อย่าแลกเลยดีกว่าน้า
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก makeupbyilona, chicandcheapmakeup, dailymoslem, corallista, sg_beauty, amarixe