เราก็เป็นคนชอบกินหอมกระเทียมปลาร้า แต่กลิ่นมันติด ข้ามวันจริงๆ เลยไปปรึกษาคุณหมอ ถึงวิธีการดับกลิ่นกระเทียม หอมแดงภายในช่องปาก กระเทียมและหัวหอมมีสารกำมะถันที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก เราต้องหาตัวช่วยลดความเข้มข้นของสารเหล่านี้!! เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนเพื่อนเพื่อนฟังค่า
1. เคี้ยวสมุนไพรหรือผักสด
• ใบมิ้นต์ / ใบโหระพา / ผักชีฝรั่ง: สมุนไพรเหล่านี้ช่วยลดกลิ่นได้ดี
ใบมิ้นต์ (หรือที่เรียกว่า ใบสะระแหน่) มีคุณสมบัติที่ช่วยลดกลิ่นกระเทียมในปากได้ เนื่องจากมีสารออกฤทธิ์หลายชนิดที่ช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก รวมถึงน้ำมันหอมระเหยที่มีสรรพคุณในการช่วยขับกลิ่นและสดชื่น นอกจากนี้ใบมิ้นต์ยังมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการอักเสบและช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในช่องปาก ซึ่งสามารถช่วยลดการสะสมของกลิ่นไม่พึงประสงค์จากกระเทียมได้
กลิ่นกระเทียมเกิดจากสารประกอบกำมะถันที่ปล่อยออกมาเมื่อเราเคี้ยวกระเทียม สารเหล่านี้สามารถติดอยู่ในช่องปากและในระบบทางเดินหายใจ แต่ใบมิ้นต์จะช่วยให้กลิ่นนั้นจางลงหรือบรรเทาลงได้ผ่านการกระตุ้นของน้ำมันหอมระเหยในใบมิ้นต์ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและทำให้กลิ่นหายไปเร็วกว่าปกติค่ะ
• แอปเปิล / ผักชีฝรั่ง / ผักใบเขียว: มีสารที่ช่วยย่อยสลายสารกำมะถันที่ทำให้เกิดกลิ่น
แอปเปิล (หรือผลแอปเปิล) ช่วยลดกลิ่นกระเทียมในปากได้เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และลดการเกิดกลิ่นจากกระเทียมโดยตรง จากการที่แอปเปิลมีสารประกอบที่ช่วยในการทำให้กลิ่นของกระเทียมลดลง ได้แก่:
-
เอนไซม์และสารฟลาโวนอยด์: แอปเปิลมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยสลายสารประกอบกำมะถัน (ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นกระเทียม) ทำให้กลิ่นที่มาจากกระเทียมลดลง
-
เส้นใยอาหาร: แอปเปิลมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยในการกระตุ้นการผลิตน้ำลายในช่องปาก น้ำลายช่วยในการขจัดเศษอาหารและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีขึ้น
-
กรดแอสคอร์บิก (วิตามินซี): แอปเปิลมีวิตามินซีที่ช่วยให้ช่องปากสดชื่นและฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ซึ่งอาจช่วยลดการสะสมของกลิ่นกระเทียมได้
-
กลิ่นหอมและรสชาติของแอปเปิล: รสชาติและกลิ่นหอมของแอปเปิลยังช่วยกลบกลิ่นกระเทียมที่เหลือในปาก ทำให้ปากรู้สึกสดชื่นขึ้น
ดังนั้น แอปเปิลจึงเป็นหนึ่งในอาหารที่ช่วยลดกลิ่นกระเทียมได้ดีค่ะ!
2. ดื่มนมสด
• นม โดยเฉพาะนมไขมันเต็ม (Full-fat milk) จะช่วยลดความเข้มข้นของสารกำมะถันในกระเทียม และมีคุณสมบัติหลายประการที่ช่วยบรรเทากลิ่นไม่พึงประสงค์จากกระเทียมได้:
-
โปรตีนเคซีน: นมสดมีโปรตีนที่เรียกว่า “เคซีน” ซึ่งสามารถจับกับสารกำมะถันที่เป็นสาเหตุหลักของกลิ่นกระเทียมได้ เมื่อโปรตีนเคซีนจับกับสารกำมะถันเหล่านี้จะช่วยลดการปล่อยกลิ่นกระเทียมจากปาก
-
ไขมันในนม: ไขมันในนมมีบทบาทในการดูดซับและช่วยลดกลิ่นที่เกิดจากกระเทียม โดยการจับกับสารระเหยที่มีกลิ่นแรงในกระเทียม ซึ่งสามารถช่วยให้กลิ่นเหล่านั้นไม่กระจายไปทั่วปาก
-
ความสดชื่นของนม: รสชาติและความมันของนมยังช่วยทำให้ปากรู้สึกสดชื่นและกลบกลิ่นกระเทียมได้ในระดับหนึ่ง
-
การเพิ่มน้ำลายในปาก: การดื่มนมจะกระตุ้นการผลิตน้ำลายในช่องปาก น้ำลายช่วยในการขจัดเศษอาหารและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีขึ้น
3. เคี้ยวเมล็ดกาแฟหรือเครื่องเทศ
• เมล็ดกาแฟคั่ว
• เมล็ดยี่หร่า / กานพลู / กระวาน
4. ใช้น้ำยาบ้วนปากหรือน้ำเกลือ
• น้ำยาบ้วนปากที่มี ซิงก์ (Zinc) จะช่วยทำปฏิกิริยากับสารที่ทำให้เกิดกลิ่น
5. แปรงฟัน + ขูดลิ้น + ใช้ไหมขัดฟัน
• กลิ่นกระเทียมสามารถติดอยู่ที่ลิ้นและระหว่างฟัน การขูดลิ้นช่วยลดกลิ่นได้ดีมาก
6. ดื่มชาเขียวหรือชาดำ
• มีโพลีฟีนอลที่ช่วยลดกลิ่นกระเทียมได้ และมีคุณสมบัติหลายประการของชาเขียวที่ช่วยจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในช่องปาก:
-
สารต้านอนุมูลอิสระ (Polyphenols): ชาเขียวมีสารที่เรียกว่า “โพลีฟีนอล” เช่น คาทิชิน (Catechins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก เมื่อแบคทีเรียลดลง จะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงกลิ่นจากกระเทียมได้
-
การฆ่าเชื้อแบคทีเรีย: ชาเขียวมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่สามารถก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในปาก ซึ่งช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นกระเทียม
-
ลดสารประกอบกำมะถัน: สารประกอบกำมะถันที่เป็นสาเหตุหลักของกลิ่นกระเทียมสามารถถูกขจัดหรือทำให้ลดลงได้จากการดื่มชาเขียว เนื่องจากชาเขียวมีสารที่สามารถจับกับสารกำมะถันและช่วยทำให้กลิ่นกระเทียมลดลง
-
การกระตุ้นการผลิตน้ำลาย: ชาเขียวช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลายในช่องปาก ซึ่งน้ำลายจะช่วยขจัดเศษอาหารและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในปากได้ดีขึ้น
ลองใช้วิธีเหล่านี้ร่วมกันเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดนะ!