ว่ากันด้วยรองพื้น Drug Store กันมาบ่อยแล้ว คราวนี้ขอกระโดดมารีวิวรองพื้นไฮโซกันบ้างนะจ๊ะสาวๆ เพราะมันคือรองพื้นเริ่ดๆ ที่ได้งานผิวแบบสวยหรูของจริง! แน่นอนว่าชั่วโมงนี้ไม่มีอะไรจะแรงไปกว่าการลงรองพื้นโชว์งานผิวสวยๆ แต่ที่หลายคนต้องการสุดๆ คือช่วยปกปิดสารพัดร่องรอยได้ด้วยทีเถ๊อะ! และสิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ รองพื้น Dior Airflash สาามารถทำสิ่งนั้น ได้..ได้..ได้ (กรุณาอ่านให้เป็นเสียงเอคโค่) 555 แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาสูงนิดนึงแหละเนอะ >.< (ราคาประมาณ 2,250 บาท)
โดยเจ้ารองพื้น Dior Airflash มีความพิเศษตรงที่เป็นรองพื้นแบบสเปรย์ หัวฉีดบางเบา ค่อยๆ พ่นรองพื้นออกมาเหมือนใช้เครื่องพ่นแอร์บรัช ดังนั้นเวลารองพื้นแตะลงบนผิวหน้าก็จะได้เนื้อที่บางเบาไม่หนา แต่คุณสมบัติการปกปิดที่ให้มาเป็นแบบ Medium – Full Coverage สามารถลงทับให้ปกปิดมากขึ้นได้ #กรี๊ดมากจริงๆ
แต่ข้อเสียคือการพ่นแบบนี้ ความเลอะเทอะต้องมาเยือนค่ะ! ถ้าต้องการสเปรย์รองพื้นให้ทั่วหน้า อาจจะมีเลอะเทอะไปถึงไรผม จอน และเสื้อผ้าได้ ถ้าไม่เทพพอ ดังนั้นเคล็ดลับในการใช้รองพื้นตัวนี้คือควรพ่นแค่ตรงกลางหน้า หรือแถวๆ จุดที่ต้องการปกปิด จากนั้นใช้ฟองน้ำเปียกหมาดๆ กดซับรองพื้นให้ทั่วหน้า ถ้าจะเพิ่มเลเยอร์ก็สเปรย์ลงไปบนฟองน้ำได้เลย แบบนี้จะช่วยเรื่องเลอะเทอะได้มากกว่า แถมยังเปลืองรองพื้นน้อยกว่าด้วย #ก็แพงอะนะ ต้องงกนิดนึง 55
หรือถ้าใครอยากใช้แบบฉีดสเปรย์ไปเลย ก็ทำได้นะคะ แค่อาจจะต้องใส่หมวกคลุมผมเอาไว้หน่อย และเตรียมแปรงหรือฟองน้ำเอาไว้เก็บรายละเอียดอีกที จะได้ผลลัพธ์ของการลงรองพื้นตัวนี้ได้เนียนที่สุด ส่วนเรื่องผลงานการปกปิดก็จัดว่าแจ่มใช้ได้เลย ทั้งที่รองพื้นยังดูบางเบาอยู่ แต่ก็สามารถเก็บร่องรอยต่างๆ ได้เนียน
โดยบล็อก lauralondonblog รีวิวให้ดูและบอกว่า รองพื้น Dior Airflsh ตัวนี้มาในปริมาณ 70 ml. เป็นขวดสเปรย์ ที่ช่วยเธอได้ในวันรีบๆ ฉีดแล้วผิวเนียนแบบเบาๆ ไม่หนักหน้า
ส่วน E for Beauty ก็บอกว่าเธอจะใช้วิธีฉีดแค่ตรงกลางหน้าเท่านั้น และจะไม่ฉีดทั้งหน้าเพราะจะเลอะไปยันผม ซึ่งด้วยความที่เป็นสเปรย์เนื้อเลยค่อนข้างแห้ง คนที่ผิวแห้งหรือมีริ้วรอยอาจต้องระวังนิดนึง ส่วนคนที่หน้ามันมากๆ แล้วต้องการความแมทสุดๆ ก็อาจไม่ตอบโจทย์ เพราะรองพื้นตัวนี้ไม่ได้เคลมเรื่องความติดทนนาน แต่ก็ไม่ทำให้หน้าดูแย่นะคะ เพราะยิ่งเวลาผ่านไปก็จะยิ่งดูโกลว์มากขึ้น เธอคิดว่าน่าจะอยู่ได้ประมาณ 5 ชั่วโมง ถ้าต้องการความแมทและคุมมันอาจจะต้องเติมแป้งทับ แต่โดยรวมทั้งหมดก็ปลื้มมากเลยแหละ
ขอบคุณรีวิวดีๆ จาก lauralondonblog, E for Beauty
ขอบคุณภาพจาก emmaloumakeup, ponikuta,