ขนคุด คืออะไร? สาวๆหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่พอบอกอาการปุ๊บ สาวๆจะต้องร้อง อ๋อ … เลยล่ะค่ะ เมื่ออาการขนคุดเนี่ย สร้างปัญหาและความรำคาญให้แก่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นปัญหาที่ผิวตามตัวไม่เรียบเนียน เห็นเป็นผิว เป็นตุ่มดำใต้ผิวหนัง หนักกว่านั้น สาวๆหลายคนก็รู้สึกคันที่บริเวณ ที่เกิดขนคุดด้วย หว๋าาา เป็นแบบนี้ก็แย่นะสิค่ะ -3- เรามารู้จักเจ้าอาการขนคุด และวิธีรักษากันค่ะ
ขนคุด คืออะไร
ขนคุดเกิดจากการทำงานผิดปกติของเซลล์ผิวหนังที่ ทำให้บริเวณผิวหนังเกิดการอุดตันจากโปรตีนชนิดหนึ่ง ชื่อ Keratin plug และ การอุดตันปิดรูขุมขนแบบนี้ มันทำให้ขนที่ขึ้น งอกออกมาจากชั้นผิวหนังไม่ได้ จึงเกิดเป็นขนคุดอยู่ใต้ผิวหนัง เนี่ยแหละจ้า
ขนคุดเนี่ย ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพนะคะ แต่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ และความสวยงาม เพราะขนคุด ที่ฝังตัวอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง จะทำให้ดูเป็นตุ่มสีดำนูนออกมาเหนือผิวปกติ แล้วก็ทำให้ผิวสาก ไม่เนียนมือค่ะ
สาเหตุของการเกิดขนคุด คืออะไร
สาเหตุของการเกิดขนคุดนั้นจะ เกิดขึ้นเองโดยพื้นฐานความผิดปกติทางพันธุกรรมของการสร้างเซลล์ผิว โรคขนคุดจึงไม่ใช่โรคติดต่อ โดยขนคุดจะพบได้ 2 ช่วงอายุ คือ
1. จะพบในช่วงอายุ ที่เริ่มเป็นในเด็กเล็ก ก่อนอายุ 2 ขวบและอาการดีขึ้นก่อนเข้าสู่วัยรุ่น
2. เริ่มเป็นในวัยรุ่น และอาการดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ป่วยบางคนในโรคนี้ อาการจะหายไปเองเมื่อถึงวัยผู้ใหญ่ แต่มีส่วนหนึ่งที่อาการยังเป็นต่อไป
ขนคุดพบได้ ประมาณ 50-80% ในเด็กและวัยรุ่นทั่วโลก และประ มาณ 40% ในผู้ใหญ่ทั่วโลกเช่นกัน
ทั้งนี้พบในผู้หญิงบ่อยกว่าในผู้ชายด้วยค่ะ
แนวทางการดูแลรักษา
ขนคุดไม่สามารถที่จะรักษาให้หายขาดได้ค่ะ แต่การดูแลตัวเอง ไม่ให้ผิวแห้ง งดอาบน้ำด้วยน้ำร้อน หลังอาบน้ำทาครีมบำรุงผิว ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น
โดย คุณหมอ พญ.ชลธิรศน์ ศรีเกษตรสรากุล คุณหมอคนสวย
ได้ให้แนวทางรักษาในเว็บไซค์ haamor.com ไว้ดังนี้ค่ะ
โรคขนคุด ไม่มีการรักษาให้หายขาด แต่โรคก็มีโอกาสที่จะหายได้เองเมื่ออายุมากขึ้น การรักษาเป็นการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ หลักคือการใช้ยาทา เพื่อให้โปรตีนเคอราตินที่อุดตันรูขุมขนหลุดออก ซึ่งอาการมักกลับมา เมื่อหยุดการดูแลรักษา
ทั้งนี้ ผลการรักษาที่ดีขึ้น เริ่มสังเกตได้หลังการรักษาตั้งแต่ประมาณ 3-4 สัปดาห์จนถึง 2-3 เดือน
การรักษา
- ในรายที่อาการเป็นไม่มาก การรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังดังนี้ก็เพียงพอ โดย
- ใช้สบู่อ่อน สำหรับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย เช่น สบู่เด็กอ่อน ในการอาบน้ำในคนที่ผิวแห้งและกิจกรรมประจำวันไม่ได้มีกิจกรรมหนักหรือสกปรกนัก การฟอกสบู่ให้ฟอกเฉพาะลำ ตัว รักแร้ ขาหนีบ มือ เท้า คอ ที่มีเหงื่อไคลสิ่งสกปรก เว้นบริเวณแขน ขา ก็จะลดความแห้งคันของผิวลงได้
- งดอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน, งดการขัด (Scrub) ผิว เนื่องจากจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
- ทาโลชันให้ความชุ่มชื้นหลังอาบน้ำเช้า-เย็น และทาได้บ่อยขึ้นอีกบริเวณผิวที่แห้ง โดยโลชันควรมีส่วนประกอบของสารให้ความชุ่มชื้นและผลัดเซลล์ผิวอุดตัน (Keratolytic) เช่น 20% Urea, Lactic acid ,Alpha hydroxyl acid (AHA), Salicylic acid, และ/หรือ Glycolic acid
อนึ่ง ข้อปฏิบัติเหล่านี้ คือ การปฏิบัติตัวเป็นประจำตลอดไป แม้ในช่วงที่อาการของโรคสงบ เพื่อลดการกำเริบของโรค
- ในรายที่อาการมาก ยาทาที่แพทย์จะสั่งให้ใช้เป็นครั้งคราว ร่วมกับการปฏิบัติตนดังกล่าวในกรณีที่เป็นไม่รุนแรง เช่น
- อนุพันธุ์ของวิตามิน-เอ ชนิดทา (Topical Isotretinoin) ช่วยผลัดโปรตีนเคอราตินที่อุดตันออก แต่อาจมีผลข้างเคียงเป็นอาการ ระคายเคืองต่อผิวหนัง และ/หรือผิวหนังอัก เสบ โดยใช้ทาก่อนนอน ทั้งนี้ให้เริ่มต้นจากยาที่มีความเข้มข้นต่ำก่อนเช่น 0.025%
- ยาทาสเตียรอยด์ ใช้ในช่วงที่ตุ่มของโรคขนคุดมีอาการ แดง คัน อักเสบโดยให้ยาเพียงช่วงเวลาสั้นๆประมาณ 2 สัปดาห์
- การรักษาวิธีอื่นๆ เช่น เลเซอร์กำจัดขน ในทางทฤษฎีใช้เพื่อลดปริมาณตุ่มขนคุด จากขนที่ไม่สามารถงอกได้ตามปกติ แต่ยังไม่มีการศึกษาเป็นข้อมูลทางงานวิจัยออกมาว่าได้ผลจริงหรือไม่ อย่างไร
ได้รูกันแล้ว สาวๆที่มีอาการขนคุด ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ ว่าจะเป็นโรคร้ายแรงอะไรรึเปล่า? แค่ดูแลตัวเอง ไม่ให้เกิดอาการผิวแห้ง ดูแลหมั่นทาโลชั่นบ่อยๆ แล้วขนคุดก็จะดีขึ้นเองค่ะ ^0^ แค่นี้ ผิวของสาวๆก็จะกลับเรียบเนียน น่าสัมผัวฃส ไม่มีเม็ดตุ่มดำๆ มากวนใจแล้วค่ะ
ลิตาขอขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซค์ haamor.com ด้วยนะคะ ที่นำเสนอข้อมูลดีๆแบบนี้
THANK YOU FOR PICTURE : plus.google.com , news.chinabyte.com