ปัญหาผิวของสาวๆ ไม่ได้มีแต่เรื่องสิวที่ก่อให้เกิดความรำคาญใจและลดความมั่นใจในตัวเองนะคะ ยังมีเรื่องของฝ้ากระที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียนเสมอกัน และยังเป็นรอยชัดเจนเมื่อเวลาหน้าสด แถมยังแต่งหน้าปกปิดได้ยาก แต่ไม่ต้องห่วงค่า เพราะทุกปัญหามีทางแก้เสมอ วันนี้เราเลยขอเปิดสูตร วิธีแก้ฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติง่ายๆ ที่ใช้สมุนไพรและของใกล้ตัวมารักษาฝ้ากัน จะมีวิธีไหนก็ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
สูตรที่ 1. หัวไชเท้ากับน้ำผึ้ง
หัวไชเท้าเป็นตัวช่วยยอดนิยมสำหรับการรักษาฝ้าและรอยดำบนหน้าเลยนะคะ เพราะในหัวไชเท้ามีวิตามินเอ กรดแอสคอบิก และวิตามินซีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ยับยั้งการทำงานการสร้างเม็ดสีเมลานินที่ทำให้ผิวดูเป็นรอยคล้ำ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น เมื่อใช้รวมกับน้ำผึ้งจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ฝ้าลดลงและผิวใหม่ก็จะดูกระจ่างใสสุขภาพดี
เราจะใช้หัวไชเท้าประมาณครึ่งหัว นำมาปอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาดจากนั้นก็นำไปปั่นหรือสับให้ละเอียดประหนึ่งผสมกับน้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ สามารถมาสก์ได้ทั้งหน้า หรือเฉพาะจุดที่เป็นฝ้าหรือรอยดำบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10-20 นาทีแล้วล้างออก ทำอาทิตย์ละ 3-4 ครั้งก็ช่วยให้ลดรอยฝ้าได้ค่ะ
สูตรที่ 2. ไข่ขาวล้วน
ไข่ขาวเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการรักษาฝ้าได้เพราะในไข่ขาวอุดมด้วยโปรตีนที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าและยังช่วยดูดสิ่งสกปรกตามรูขุมขนและยังช่วยลอกเซลล์ผิวที่เสียหรือตายแล้วออกได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงและช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เป็นปัญหาอย่างฝ้าและรอยดำบนใบหน้าออกได้ด้วย
วิธีใช้ไข่ขาวแก้ฝ้าของเราไม่อยากเลยค่า แค่ตอกไข่แล้วเลือกเฉพาะไข่ขาวออกมาสักประมาณ 1-2 ฟอง หรือจะกะให้พอดีกับหน้าเราก็ได้นะคะ ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ไข่ขาวจะช่วยดึงสิ่งสกปรกอุดตัวตามรูขุมขนอย่างสิวเสี้ยนขึ้นมาด้วย และยังช่วยลอกให้ฝ้าและรอยดำให้ดูสว่างขึ้นได้อีกด้วยค่ะ
สูตที่ 3. ว่านหางจระเข้
ว่านหางจะเข้เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและลดความมันบนใบหน้า ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่จะช่วยลดฝ้ากระจุดด่างดำบนใบหน้า และยังมีมอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติที่จะช่วยลดริ้วรอยบน ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและยังช่วยลดอาการแสบร้อนบนผิวที่เกิดจากแสงแดดและไฟ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วยค่า
คนที่มีปัญหาเรื่องฝ้า สามารถเลือกใช้ว่านหางจระเข้สดมาแช่น้ำทิ้งไว้ 10 นาทีหลังจากตัดเพื่อเอายางเหลืองอออก จากนั้นนำมาปอกเปลือกเขียวๆ ออกให้เหลือแต่วุ้นสีขาว ล้างเอายางเหลืองออกให้หมดก่อนนำมาปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเจล สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นก่อนนำมาใช้ทาหน้าบางๆ วันละ 2 ครั้งช่วงเช้าและเย็นเป็นประจำทุกวันโดยไม่ต้องล้างออก ก็จะช่วยลดและป้องกันการเกิดฝ้ากระจุดด่างดำได้ค่ะ
สูตรที่ 4. น้ำมะขามเปียก
ในมะขามเปียกจะมีกรด AHA ที่เป็นกรดธรรมชาติช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าและเซลล์ผิวที่หมองคล้ำออก เป็นส่วนที่ช่วยลดรอยฝ้าบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ นอกจากกรด AHA และในมะขามเปียกยังมีวิตามินบีและวิตามินซีที่ช่วยบำรุงให้ผิวดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสหลังจากการใช้เป็นประจำ นอกจากนี้ มะขามเปียกยังช่วยกำจัดสิ่งสกปรกอุดตัน จึงลดการเกิดสิวได้อีกด้วยค่า
วิธีใช้น้ำมะขามเปียกรักษาฝ้าก็ใช้ง่ายมากๆ แค่แช่มะขามเปียกที่เราซื้อได้ตามตลาดลงในน้ำสะอาดหรือน้ำนมสดก็ได้นะคะ ถ้าใครอยากบำรุงผิวด้วย แช่เอาไว้เป็นเวลา 10 นาทีหรือจนกว่ามะขามเปียกจะนิ่มแล้วคั้นเอาแต่น้ำมะขาม เอากากและเม็ดมะขามออก จากนั้นก็นำน้ำมะขามที่เราคั้นได้มามาสก์บนใบหน้าเอาไว้เป็นเวลา 5 นาทีแล้วล้างออก ทำอาทิตย์ละ 2-3ครั้ง ก็จะช่วยให้ฝ้าจางลงได้ค่ะ
สูตรที่ 5. น้ำใบบัวบกคั้นเอาแต่น้ำ
ใบบัวบกเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง รักษาโรคผิวหนังรวมทั้งรักษาสิวฝ้ากระจุดด่างดำ มีสารไกลโคไซด์ ที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมของเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือกและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้อีกด้วย
เราสามารถนำใบบัวบกสดมาล้างให้สะอาดแล้วนำไปบดพอหยาบ ก่อนนำมาคั้นเอาแต่น้ำมาใช้มาสก์ใบหน้าหรือใครจะปั่นจนละเอียดแล้วคั้นเอาแต่น้ำเท่านั้นมาใช้ โดยจะเก็บใส่ตู้เย็นเอาไว้ใช้ได้ประมาณ 2-3 วัน เวลาใช้ก็จะนำสำลีมาเทน้ำใบบัวบกให้ชุ่ม ใช้เช็ดหน้าหลังจากล้างหน้าเสร็จ ทำทุกวันเช้าเย็น ก็จะช่วยลดฝ้ากระจุดด่างดำได้ค่า
สิ่งของแต่ละอย่างมาจากธรรมชาติและมีสรรพคุณที่ช่วยในการรักษาลดรอยฝ้าจุดด่างดำนะคะ ใครสะดวกจะใช้สูตรไหนก็เลือกเอาที่สะดวกกันได้ ทำเป็นประจำก็จะลดรอยฝ้าเหลือแต่หน้าใสเป็นธรรมชาติ แต่นอกจากการใช้สูตรเหล่านี้ลดฝ้าแล้ว ต้องห้ามลืมทากันแดดออกจากบ้านเพื่อป้องกันปัญหาฝ้ากลับมาเป็นซ้ำกันด้วยค่ะ
ขอบคุณ : heartbellysoul, girlsallaround, thebestorganicskincare, hot-thai-kitchen.com, tuoitre.vn, withinthetrend.com