ราชประสงค์ ย้ำจุดเด่นของย่านที่เติมเต็มทุกธุรกิจและไลฟ์สไตล์ จนได้รับการขนานนามว่า “The Heart of Bangkok” โดยมี “ราชประสงค์ วอล์ก – R-Walk” โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 4 ทิศทาง ได้เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบให้ผู้คนเดินได้ทั่วย่านอย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ และเชื่อมทุกประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ EAT-PRAY-STAY-SHOP เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ย่านราชประสงค์นับเป็นแหล่งรวมของอาหารรสเลิศ และเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ไปดูกันค่ะว่ามีห้องอาหารชั้นนำที่ควรไปมีอะไรบ้าง
Top 8 ห้องอาหารในโรงแรมสุดหรู ใจกลางเมืองกรุง
1.ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ
อาหารจานเด่นเมนูนี้ เชฟเฟย์ รุ่งทิวา ชุ่มมงคล หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหารที่มีประสบการณ์การทำงานกว่า 10 ปี ได้แรงบันดาลใจมาจากปูผัดผงกะหรี่ของไทย เพราะอาหารทะเลเป็นวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย เชฟจึงคัดสรรเนื้อปูม้าและหัวขึ้นฉ่ายฝรั่งจากโครงการหลวง ซึ่งเป็นผักที่นิยมเป็นอย่างสูงในแถบสแกนดิเนเวียมาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำเมนูนี้ บลู ออฟ เดอะ ซี มีกลิ่นอายของทั้งอาหารไทยและอาหารนอร์ดิคในสไตล์โมเดิร์น เทคนิคการทำอาหารโดยการนำเนื้อปูมาใส่ในขึ้นฉ่ายฝรั่งที่ทำเป็นรูปทรงกระบอก แต่งหน้าด้วยครีมโฟมรสผงกะหรี่ และตกแต่งเพิ่มสีสันให้กับเมนูด้วยขึ้นฉ่ายฝรั่งหั่นฝอย ไข่ปลาเทราต์ และดอกเวอร์บีน่าสีม่วงอ่อน เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ทีได้รับประทาน เมนู บลู ออฟ เดอะ ซี จะให้รสชาติความหวานจากเนื้อปู ซึ่งเข้ากับครีมโฟมผงกะหรี่ได้อย่างดี แนะนำให้รับประทานคู่กับน้ำบีทรูทที่มีส่วนผสมของบีทรูท สับปะรด และมันแกว มีรสเปรี้ยวและช่วยเพิ่มความสดชื่น เพิ่มกลิ่นและรสชาติของปูให้เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
พิกัด: ฟร้อนท์ รูม ชั้น Lower Lobby ณ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา
17.30 น. ถึง 22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-846–8888
2.ห้องอาหารบาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ
เซียร์ทูน่าต้มยำกับซอสมะขาม สร้างสรรค์โดยนำความเป็นไทยแบบดั้งเดิม ผสมผสานเข้าไปในเมนู ชูวัตถุดิบเด่นเอกลักษณ์ของไทยคือ ซอสมะขามและผงปรุงรสต้มยำสูตรพิเศษที่โรงแรมทำขึ้นเอง โดยมีส่วนผสมหลักคือ ใบมะกรูด ข่า ตะไคร้ และพริกชี้ฟ้า ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้มาจากโครงการหลวง นำทูน่าหมักด้วยผงปรุงรสต้มยำ ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารไทยแบบโมเดิร์นที่มีรสชาติจัดจ้านกำลังพอดี จัดแต่งจานด้วยเซียร์ทูน่าเรียงซ้อนบนขนมปังหน้ากุ้งโรยงา สันคอหมูทอด และราดด้วยซอสมะขามสูตรพิเศษของโรงแรม ห้องอาหาร บาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น อยู่ภายใต้การดูแลของเชฟสมพงษ์ วิสูงเร ผู้มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ในด้านอาหารไทยและอาหารยุโรป เชี่ยวชาญในการประยุกต์เมนูออกมาอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังได้รับรางวัลเหรียญเงิน จากการประกวดอาหารไทยโมเดิร์น และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
พิกัด: บาร์ นายน์ เบียร์ การ์เด้น ชั้น 9 ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-209-1700 ต่อ 8705
3.อาร์ บาร์ ณ โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
เชฟประเสริฐชัย ตรงวานิชนาม Chef De Cuisine ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ได้ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากทั้งในและต่างประเทศเพื่อรังสรรค์ ทาปาสไทย นานาชนิดที่ถูกนำมาตีความใหม่ในรูปแบบโมเลคิวลาร์หรือวิธีการทำอาหารแบบใหม่ที่นำเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ประกอบการทำอาหารให้ผู้ทานลืมภาพอาหารไทยแบบเดิมๆ แล้วสนุกไปกับการลิ้มลองอาหารในรูปแบบใหม่ รวมทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และนำเอาสมุนไพรไทย เช่น พริกขี้หนู มะขาม ตะไคร้ และมะกรูด มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักเพื่อรักษารสชาติอาหารไทยแบบดั้งเดิมหากแต่มีวิธีนำเสนอที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น เมนูไฮไลท์คือ มัสมั่นเนื้อวัวที่ใช้เนื้อวัวจากนำเข้าจากออสเตรเลีย ที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีแบบธรรมชาติ และใช้วิธี โมเลคิวลาร์ ในการเปลี่ยนน้ำแกงมัสมั่นเป็นซอสครีมเข้มข้น ที่ยังคงรสชาติและกลิ่นแกงมัสมั่นดั้งเดิมไว้เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อที่ผ่านกรรมวิธีทำให้สุกภายใต้สูญญากาศ ถึง 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อ รวมถึงการตกแต่งที่ถูกถ่ายทอดจากจินตนาการที่สร้างความตื่นเต้น น่าค้นหา และทันสมัยในทุกๆจาน นอกจากนี้ทางอาร์ บาร์ ยังได้เตรียมมอบความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มสูตรพิเศษเพื่อต้อนรับทุกท่านที่มาเยือนก่อนที่จะสนุกไปกับการรับประทานอาหารมื้อนี้อีกด้วย
พิกัด: อาร์ บาร์ ชั้นล็อบบี้ ณ โรงแรม เรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา
07.00 น. ถึง 01.00 น. (สำหรับโปรโมชั่นดังกล่าวเสิร์ฟทุกวันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึง 21.00 น.
พร้อมค็อกเทลต้อนรับ เวลา 18.30 น.) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-125-5105
4.ห้องอาหารเอราวัณ ที รูม โดย โรงแรม แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ณ ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก
เอกลักษณ์ของเมนู ยำดอกขจร บัวหลวง คือการนำเอากลีบของดอกบัวหลวงสายพันธุ์ บัวแดง ฉัตรชมพู หรือสัตตบงกช ที่มีรสชาติขมเล็กน้อย มาผสานเข้ากับดอกขจร ที่มีรสชาติหวานหน่อยๆ บวกกับเครื่องเคียงที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมะพร้าวคั่วกรอบ ถั่วลิสงคั่วบด และเม็ดบัวต้ม รับประทานพร้อมกับน้ำยำ ที่ได้นำกะทิพริกเผามาปรุงกับน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊ป และเกลือ เคี่ยวให้เกิดรสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน เผ็ดปลายลิ้น จัดวางดอกขจรในกลีบดอกบัวอย่างพอดีคำทำให้ทานง่าย ยิ่งไปกว่านั้นสีเขียวของวัตถุดิบยังตัดกับสีชมพูของกลีบดอกบัว ทำให้เมนูนี้สวยสะดุดตา แนะนำทานคู่กับชามะตูม ใบเตยที่มีรสชาติหอมหวานซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดี ห้องอาหารเอราวัณ ที รูม โดยมี เชฟทรงพล กิตติคุณวัจนะ คอยดูแลในส่วนของอาหาร ผู้ที่อยู่ในแวดวงการอาหารมานานหลายปี และจบหลักสูตรการทำอาหารจากโรงเรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต
พิกัด: เอราวัณ ที รูม โดย โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค๊อก
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-254-6250
5.ห้องอาหารสไปซ์มาร์เก็ต ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
กุ้งคั่วพริกเกลือ เป็นซิกเนเจอร์เมนูของร้านที่ไม่ควรพลาด โดยเชฟเลือกใช้กุ้งลายเสือตัวใหญ่เนื้อสดแน่น ซึ่งเข้ากันดีกับสมุนไพรไทยอย่างพริก ข่า และตะไคร้ ที่นำมาโขลกและผัดให้เกิดกลิ่นหอม จากนั้นโรยด้วยหอมแดงและกระเทียมทอดกรอบ โดยเหตุผลที่เลือกใช้สมุนไพรไทยเพราะมีความโดดเด่นในเรื่องกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ไทย และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เมนูนี้ถูกตกแต่งในรูปแบบใหม่และทันสมัยเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ห้องอาหารสไปซ์มาร์เก็ตอยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล ที่สำเร็จการศึกษาด้านบริหารธุรกิจสาขาการจัดการครัวและภัตตาคาร จากวิทยาลัยดุสิตธานี และเคยได้ร่วมงานกับโรงแรมระดับ 4 และ 5 ดาวมากมายอีกด้วย
พิกัด: สไปซ์มาร์เก็ต ชั้น ล็อบบี้ ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ช่วงกลางวัน ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-126-8866
6.ห้องอาหารวูว์ ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ
เชฟลักษณ์ ปรีเปรม หนุ่มวิศวกรที่มีใจรักในการปรุงอาหาร ได้นำเอาเมนูที่เป็นเอกลักษณ์และยอดนิยมของไทยอย่างต้มยำกุ้งมาต่อยอด เพิ่มความพรีเมียมโดยใช้กุ้งมังกรตัวใหญ่เนื้อแน่น เด้ง สด หวาน จากจังหวัดภูเก็ตมาเป็นวัตถุดิบหลัก กุ้งมังกรจากภูเก็ตมีความโดดเด่นตรงที่มีเปลือกบางซึ่งทำให้มีเนื้อเยอะ เมื่อปรุงน้ำซุปต้มยำกับเนื้อกุ้งมังกรเข้าด้วยกัน เติมความเปรี้ยวด้วยใบมะขามและน้ำมะนาวสด ทำให้เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อมและเผ็ดกำลังดี อีกทั้งใบมะขามยังมอบสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ที่ได้รับประทานอีกด้วย ต้มยำกุ้งมังกร ถูกจัดเสิร์ฟอย่างสวยงามในลูกมะพร้าวอ่อน ซึ่งเพิ่มความหอมอร่อยน่าทาน และตกแต่งจานอย่างสวยงามด้วยเปลือกกุ้งมังกร และเมนูนี้ยังปรุงให้ชมสดๆ ข้างโต๊ะอาหาร เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษที่สุดให้แก่ผู้ทาน
พิกัด: วูว์ ชั้น 12 ณ โรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 24.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-207-7819
7.ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
ปลากระพงซอสมะขาม เป็นเมนูเด่นของห้องอาหารเอสเพรสโซ่ เน้นการนำเอาวัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรไทย เช่น มะขามเปียก มะนาว หอมแดง พริกแห้ง และผักชี พร้อมเครื่องปรุงรสอย่างน้ำปลาและน้ำตาลปี๊ป มาทำเป็นน้ำซอสราดบนเนื้อปลากระพงชุปแป้งทอดทอดกรอบ ทำให้ได้รสหวานของเนื้อปลากระพง ไปพร้อมกับรสชาติเปรี้ยวหวานจัดจ้านของซอสมะขาม ทำให้เมนูนี้มีรสชาติกลมกล่อมครบรส
ห้องอาหารเอสเพรสโซ่เสิร์ฟอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีอาหารหลากหลาย นอกจากปลากระพงซอสมะขาม ยังมีต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน ยำสามกรอบ และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บแบบไทย เพิ่มรสชาติให้กับอาหารทะเลสดใหม่ อาทิ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งล๊อบสเตอร์ หอยนางรมฟิน เดอร์ แคลร์ และปูอลาสก้า ฯลฯ ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ อยู่ภายใต้การดูแลของ เชฟโรลันโด มาเนสโก ที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารงานครัวและงานบริการในห้องอาหารมานานหลายปี ทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป
พิกัด: ห้องอาหารเอสเพรสโซ่ ชั้น M ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา
06.00 น. ถึง 23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-656-0444 ต่อ 6430
8.ห้องอาหารอูโน มาส ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
อกเป็ดเซียร์เสิร์ฟพร้อมตับห่าน เป็นเมนูที่ได้นำวัตถุดิบที่ผลิตในท้องถิ่นของไทยผสมผสานกับรูปแบบของอาหารสเปน โดยเชฟซานโดร อากีเลรา ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากว่า 22 ปี และเคยร่วมงานกับโรงแรมชั้นนำระดับระดับมิชลิน สตาร์ ในประเทศฝรั่งเศสและสเปน เลือกใช้อกเป็ดจากโครงการหลวงที่มีคุณภาพดีเลิศเทียบเท่าระดับโลกด้วยเนื้อที่แน่น หนังกรอบ และรสชาติที่อร่อย ทานคู่กับตับห่านเซียร์ ซึ่งทำให้เมนูนี้มีความหอม มัน มีรสชาติกลมกล่อมและลงตัว ราดด้วยซอสซึ่งทำจากน้ำสต็อกโครงเป็ดที่ใช้เวลาเคี่ยวนานหลายชั่วโมง รวมถึงวัตถุดิบและเครื่องปรุงอื่นๆ จากสเปนที่เชฟนำมาผสมผสานเป็นสูตรเฉพาะของห้องอาหาร อูโน มาส อีกทั้งเมื่อทานคู่กับซอสมัสตาดที่ตกแต่งข้างจานจะช่วยชูรสชาติให้ดียิ่งขึ้น การจัดจานของเมนูนี้ถูกจัดในแบบสเปนสไตล์ อูโน มาส ทำให้ดูมีความเรียบง่าย ทันสมัย และแปลกตายิ่งขึ้น
พิกัด: ห้องอาหารอูโน มาส ชั้น 54 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 01.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02–100–6255 ต่อ 5400
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเชฟที่มากฝีมือ ผสานกับความพิถีพิถันในการปรุงแต่งอาหารเลิศรสจากวัตถุดิบพรีเมียม ที่มาพร้อมกับไอเดียการตกแต่งในรูปแบบโมเดิร์น แปลกใหม่ น่าตื่นเต้น และน่าค้นหา ไปสัมผัสได้ที่ย่านราชประสงค์แนะนำให้มาลิ้มลอง ได้แล้ววันนี้
creedition.cnn.comdit :
อัพเดทข่าวสารนิตยสารผู้หญิงผ่านทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @ladyissue (มี@นำ)
1 Comment
Pretty! This has been a really wonderful post. Many thanks for providing these details.