เวลาว่างสาวๆ ทำอะไรกันบ้างคะ ถ้าหากไม่มีอะไรทำแล้วรู้สึกเบื่อๆ ลองอ่านหนังสือกันดูดีไหม เรามีหนังสือแนว Feel Good แบบอ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ เหมาะกับการอ่านเวลาว่างมากเลยค่ะ เชื่อว่าถ้าสาวๆ ได้อ่านแล้วล่ะก็จะต้องรู้สึกแฮปปี้ และได้ข้อคิดอะไรกลับไปแน่ เริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมคะว่ามีหนังสืออะไรบ้าง ถ้าอย่างนั้นตามมาทางนี้เลยค่า
1. Me Before You โดย Jojo Moyes
Photo By : pinterest
หลายคนคงคุ้นๆ ว่าเอ๊ะนี่มันที่เป็นภาพยนตร์นี่ ใช่แล้วค่ะ หนังสือเรื่องนี้ถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์แล้วเรียบร้อย Me Before You เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องออกจากงานโดยไม่ทันคาดคิด และด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับทำให้เธอต้องรับงานเป็นผู้ดูแลชายหนุ่มอดีตนายธนาคารผู้ร่ำรวยและรักการผจญภัย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้ว ด้วยอุบัติเหตุทำให้เขาเดินไม่ได้และต้องใช้ชีวิตอย่างน่าเศร้า และแน่นอนว่าการพบกันของทั้งสองคนจะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างไปโดยสิ้นเชิง… ใครที่เคยดูภาพยนตร์มาแล้ว (และรู้ตอนจบแล้ว) อาจจะอ่านไม่อิน แต่ก็ทำให้ทราบรายละเอียดที่ในหนังไม่ได้ใส่ลงไป ส่วนใครที่ยังไม่เคยรู้เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้มาก่อน แนะนำว่าให้ลองดูค่ะ นี่เป็นนิยายที่จะทำให้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเลยแหละ
2. The Fault in Our Stars โดย John Green
Photo By : pinterest
นวนิยาย Feel Good การันตีคุณภาพได้จาก The New York Times Best Seller list อันดับหนึ่ง และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว เรื่องราวเล่าผ่านตัวละครที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เฮเซล สาวน้อยวัย 16 ปี ที่มียายื้อลมหายใจเอาไว้แต่ก็ถูกจำกัดจำนวนวันที่มีชีวิตอยู่เช่นกัน แล้วเธอก็ได้เจอ ออกัสตัส หนุ่มหล่อที่มีขาเพียงข้างเดียว ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล… นวนิยายดีๆ ที่ทำให้เราเรียนรู้คุณค่าของการมีชีวิต แม้ว่าจะดำเนินด้วยตัวละครที่อายุน้อยก็ตาม ใครที่เคยดูภาพยนตร์มาแล้วจะมาอ่านเก็บรายละเอียดที่ในหนังไม่ได้ใส่ก็ได้ค่ะ ส่วนใครที่ไม่เคยดูมาก่อนรับรองว่าถ้าดูเรื่องนี้จบจะต้องได้ข้อคิดอะไรกลับมาแน่นอน
3. A Man Called Ove โดย Fredrik Backman
Photo By : pinterest
จัดว่าเป็นนวนิยาย Feel Good อีกเล่มที่ควรค่าแก่การอ่าน เรื่องย่อคือ อูเวมนุษย์ลุงวัย 59 ปากเสียโผงผาง รักความถูกต้อง รักศักดิ์ศรี รักเมีย รักความเป๊ะ ให้ค่ากับการทำงานหนัก มีคำถามมากมายกับวิถีชีวิตของโลกยุคใหม่ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ยันหม้อต้มกาแฟ และวันนี้เขากำลังอยากตาย อ่านถึงตรงนี้คงสนใจกันแล่วว่าทำไมลุงต้องอยากตาย ก็ต้องตามอ่านกันในหนังสือนะจ๊ะ แต่รับรองไม่ผิดหวัง อ่านแล้วจะต้องยิ้มพร้อมกับน้ำตาเหมือนเราแน่
4. To Kill a Mockingbird โดย Harper Lee
Photo By : gosetawatchmanbook
เคยได้ยินไหมคะว่าอย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก To Kill a Mockingbird ก็เป็นอย่างนั้น ต้องเจ๋งแค่ไหนล่ะถึงได้รางวัลพูลิตเซอร์ไปครอง เนื้อหามีพื้นฐานมาจากการสังเกตครอบครัวและเพื่อนบ้านของผู้เขียน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้ ๆ เมืองเกิดใน พ.ศ. 2479 เมื่อเธออายุได้ 10 ปี หนังสือเล่มนี้เป็นที่รู้จักด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและอารมณ์ขัน แม้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาสังคมก็ตาม โดยแก่นเรื่องของเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความไม่ยุติธรรมระหว่างเชื้อชาติและการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ อาจจะฟังดูน่าเบื่อแต่อยากให้ลองเปิดใจดูค่ะแล้วจะรู้ว่าหนังสือ Feel Good เล่มนี้มีดีกว่าที่คิดค่า
5. The Art of Racing in the Rain โดย Garth Stein
Photo By : clothedwithgrace
หนังสือที่มองแค่หน้าปกแล้วอาจคิดว่าเป็นสารคดีสัตว์โลก แต่หนังสือเล่มนี้ขอบอกว่าติดอันดับ New York Times bestseller ยาวนานหลายสัปดาห์เลยนะคะ ขายดีขขนาดไหนถามใจดู คนที่รักน้องหมา หรือมีสัตว์เลี้ยงต้องอ่าน เพราะเป็นเรื่องที่เล่าผ่านมุมมองของเจ้าตูบสี่ขาเพื่อนซี้ เค้าคิดอะไรอยู่นะ แล้วมองเรายังไง พออ่านจบแล้วเชื่อเถอะว่าจะรักสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะน้องหมามากขึ้นเป็นเท่าตัว ถือว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับน้องหมาที่เล่าเรื่องได้สวยงามชวนซึ้งอีกเล่มหนึ่งเลยค่ะ
6. Fangirl โดย Rainbow Rowell
Photo By : commasandampersandsblog
ใครที่ชอบนวนิยาย Feel Good แบบน่ารักกุ๊กกิ๊ก อินเลิฟหน่อย จะต้องชอบเรื่องนี้ค่ะ เรื่องก็คือ แคธ เป็นแฟนหนังสือ ไซมอน สโนว์ ไม่ใช่แค่แฟนธรรมดา แต่เธอเป็นแฟนที่มีแฟนๆ อีกหลายหมื่นคนคอยติดตามผลงาน แคธเขียนแฟนฟิค และ ไซมอน สโนว์ ก็เป็นโลกทั้งใบของเธอ เธอเก็บตัวจากคนภายนอก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครนอกจากฝาแฝดของเธอ แต่เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย แคธต้องจากพ่อ และฝาแฝดต้องการไปมีชีวิตของตัวเอง เหตุการณ์วุ่นวายจึงเริ่มต้นขึ้น ซ้ำร้ายยังมีหนุ่มๆ เข้ามาพัวพัน แคธจะปรับตัวเช่นไรกับชีวิตใหม่ของเธอ เมื่อเรื่องราวความรักมาเคาะประตูอยู่ตรงหน้า และไม่ได้อยู่แต่ในนิยายที่เธอเขียนอีกต่อไป… อ่ะ น่าสนใจล่ะสิ มีความรักใสๆ หัวใจว้าวุ่นเว่อร์ อ่านแล้วต้องอมยิ้มตามแน่นอนค่ะ
7. I’ll Give You the Sun โดย Jandy Nelson
Photo By : blueeyedbiblio
ชื่อเรื่องดูน่าสนใจไหมคะ มองดูแล้วรู้สึกว่าทำไมต้องให้พระอาทิตย์ แล้วใครเป็นคนให้ เพราะอะไร ความสงสัยในชื่อเรื่องเป็นประตูเปิดไปสู่เนื้อหาอันแสนน่ารัก อบอุ่นค่ะ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับฝาแฝดหญิงชายคู่หนึ่ง ที่สนิทกันมาก แต่นิสัยค่อนข้างจะแตกต่างกัน แต่เมื่อโตขึ้นเรื่องราวกลับตาลปัตร ทั้งสองคนเปลี่ยนไปในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะอะไรทั้งสองคนถึงได้เป็นแบบนี้ สามารถหาคำตอบได้จากหนังสือเล่มนี้เลยค่ะ จัดว่าเป็นนวนิยาย Feel Good ที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงได้สนุก น่ารัก และอบอุ่น ปะปนไปด้วยความดราม่าเล็กน้อยพอให้เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อค่ะ
8. Wonder โดย R.J. Palacio
Photo By : beautybabbles
การันตีคุณภาพได้จากการเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ติดอันดับ 1 New York Times Best Sellers แบบข้ามปีกันเลยทีเดียว เป็นเรื่องราวของเด็กชายอายุ 10 ขวบ เป็นเด็กดี ฉลาด มีอารมณ์ขัน และเข้าใจสิ่งต่างๆ ในชีวิตดีมาก แต่ใบหน้าเขาผิดรูปผิดร่าง หน้าตาเขาน่าเกลียดที่สุดเกินกว่าที่ใครจะคิดจินตนาการได้ จนถึงวันที่ต้องขึ้นป.5 พ่อแม่ก็ตัดสินใจส่งเขาเข้าโรงเรียนปกติ ทุกคนผงะเมื่อเห็นหน้า ไม่มีเด็กคนไหนอยากเข้าใกล้ ไม่มีใครเล่นด้วย เพื่อนๆ รวมตัวกันแอนตี้ ตัวละครทั้งหมดมีปมบางอย่างเป็นของตัวเองทำให้เราต้องอ่านจนจบ พร้อมทั้งคอยเอาใจช่วยเด็กชายที่มีหน้าตาน่าเกลียดที่สุดในโลกแต่ก็น่ารักที่สุดในโลกไปด้วยกัน
9. A Mango-Shaped Space โดย Wendy Mass
Photo By : buzzfeed
ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเล่าด้วยมุมมองของตัวเอกที่เป็น Synesthesia เธอสามารถมองเห็นสีในตัวอักษรกับตัวเลข แล้วยังได้ยินเสียงที่มีสีอีก เป็นชีวิตที่ไม่ปกติท่ามกลางคนปกติ แนะนำให้ลองอ่านดูค่ะ นอกจากจะได้ความรู้เรื่อง Synesthesia แล้วยังได้ความบันเทิงด้วย มาเอาใจช่วยตัวละครที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงกันเถอะค่ะ! รับรองว่าต้องวางไม่ลงค่า
10. My Sweet Orange Tree โดย José Mauro de Vasconcelos
Photo By : listal
วรรณกรรมบราซิลที่รู้จักกันมานานหลายสิบปี เป็นวรรณกรรมดีถึงขนาดที่สถานศึกษาบางแห่งจัดให้เป็นหนังสือนอกเวลาเลยนะคะ เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กน้อยเซเซ่ ผู้มีจินตนาการเปี่ยมไปด้วยความฝันที่สวยงามเป็นเด็กฉลาด เกิดในครอบครัวที่ยากจน มีพี่น้องหลายคน ด้วยความที่เขาดื้อและซน ชอบก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน จึงทำให้เขาโดนทำโทษแรงๆ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าไม่มีใครรักเขา จึงสร้างโลกส่วนตัวของเขาขึ้นมาคือโลกแห่งความฝัน เขาได้พบกับต้นส้มต้นหนึ่งซึ่งพูดได้ทำให้เขาได้เพื่อนใหม่ที่รู้ใจที่สามารถพูดคุยและเป็นเพื่อนเล่นกับเขาได้ แต่ไม่นานเขาต้องรับรู้ว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาต้องจากเขาไปตลอดกาล… ฟังดูเศร้า แต่เราได้ข้อคิดมากมายจากหนังสือเล่มนี้เลยนะคะ เป็นหนังสือ Feel Good ดีๆ ที่ควรอ่านเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก buzzfeed
อัพเดทข่าวสารนิตยสารผู้หญิงผ่านทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @ladyissue (มี@นำ)
1 Comment
I liked as much as you’ll obtain performed proper here. The sketch is attractive, your authored material stylish. nevertheless, you command get got an edginess over that you want be handing over the following. in poor health for sure come more until now again as exactly the same just about a lot often inside of case you shield this hike.