แอบเห็นกระทู้รีวิวแชมพูใสแบบอลังการมาก เราก็เลยขออนุญาตนำเนื้อหาจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3743659 ที่รีวิวเอาไว้มาให้สาวๆ Ladyissue ได้ชมกันค่ะ ว่าแชมพูใสยี่ห้อไหนน่าใช้ ยี่ห้อไหนใช้ดี ลองไปดูกันเลยจ้า…
มาบูฮายยยยยย !!!!!! รีวิวชิ้นแรกในชีวิตของความเป็นคนค่ะ ต้องเล่นใหญ่กันหน่อย วันนี้เลยจะรีวิวแชมพูใสที่มีขายอยู่ในประเทศไทย แผ่นดินทองของเรานะคะ เท่าที่เงินในกระเป๋าจะสรรหามาได้ค่ะ 555 คือก่อนหน้านี้ก็ใช้แชมพูเนื้อครีมทั่วไปแหละค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นคนที่ผมมันง่ายมาก ไม่รู้เอาน้ำมันจากส่วนไหนมาหล่อเลี้ยงผมให้มากมายขนาดนี้ พอยิ่งใช้แชมพูเนื้อครีมมันเลยรู้สึกหนักๆหัว แต่แชมพูใสมันรู้สึกเบาๆ กว่า ไม่รู้มโนไปเองรึเปล่า 555555 แต่! ความเบาสบายที่มานั้นบางทีก็เป็นจุดอ่อนของนางค่ะ บางยี่ห้อเราลองใช้แล้วผมแห้งไปอีก บางยี่ห้อก็ใช้แล้วหัวมัน แต่เดี๋ยวเราจะมาเปรียบเทียบกันให้เห็นไปเลยว่าแต่ละยี่ห้อนั้นป็นอย่างไร ละตัวไหนจะใช้แล้วผมพริ้วไม่หนักหัว เพราะทุกๆวันของชีวิตมนุษย์เงินเดือนมันก็ต้องมีแว๊นซ์พี่วินไปทำงานกันหน่อยแหละ อ่ะกว่าจะถึงที่ทำงานต้องเจออะไรบ้างคะ แดด ลม ควันรถ เออเริ่ดดดด ผมเงาๆของน้องกว่าจะถึงที่ทำงาน ก็เหนียวสิคะ ไม่ให้เกียรติเมคอัพและคอสตูมกันเลย จ้าาา
ก่อนจะมารีวิวนี่จะบอกให้ฟังให้สักนิดว่าทำไมเราถึงชื่นชอบแชมพูใสจนถึงขนาดที่แชมพูยี่ห้อไหนเป็นแชมพูใส เราซื้อมาลองหมดทุกตัวเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้!
คืองี้ค่ะ เนื่องจากเมืองไทยบ้านเกิดเมืองนอนของเรานั้นอากาศร้อนมาก ร้อนแบบอาบเหงื่อแทนอาบน้ำกันไปเลย เราผู้ซึ่งขี้ร้อนเป็นทุนเดิมก็จะมีเหงื่อออกมาก เคยใช้แชมพูครีมๆนี่สระเช้าตกเย็นคือหัวเหนียวสุดๆ หนักหัวมาก บางทีก็คันหัวไปอีก ไม่โอเครรรรเลย ทีนี้ได้ไปลองแชมพูใสที่ห้องของเพื่อนแล้วพบว่ามันเบาหัวกว่า อยู่ทั้งวันแล้วหัวไม่มัน ไม่หนักหัว เกิดอาการติดใจแชมพูใสก็เลยลองใช้มาเรื่อยๆ จนตอนนี้แชมพูเต็มบ้านไปหมด แม่เรานี่บ่นเลยค่ะ 555555 แล้วพอมีเยอะก็เลยมีความคิดว่าไหนๆก็ใช้มาเยอะมาก เลยคิดว่าคงดีถ้ามีคนสนใจแชมพูใสก็สามารถตัดสินใจได้เลยว่าอันไหนเป็นยังไง เพราะตอนนี้เท่าที่เห็นเหมือนยาสระผมที่มีขายในไทยนั้นขยันออกสูตรแชมพูใสมาขายกันให้ลึ่มมมม เนี่ย เลยซื้อมาเท่าที่จะหาได้แล้วเอามารีวิวดีกว่า เก๋ๆไปเลยค่าาาาาาา
สำหรับรีวิวครั้งนี้จะเป็นการสระผมด้วยแชมพูใสอย่างเดียวไม่มีการเสริมด้วยครีมนวดผมนะคะ จะได้รู้กันไปเลยค่ะว่าใช้แล้วนอกจากความเบาสบายหัวนั้น ความนุ่ม และกลิ่นหอมๆ ถ้าใช้แค่แชมพูในวันที่เร่งรีบตัวไหนรอดบ้าง (แต่ทางที่ดีใช้แชมพูแล้วตามด้วยครีมนวด ผมจะนุ่มและหอมติดทนมากกว่าน้า อันนี้บอกไว้ก่อน)
และนี่คือสภาพผมที่แท้ทรูของเราเองค่ะ มันมากๆๆๆๆๆโดยเฉพาะโคนผม คือเป็นคนผมเส้นเล็ก และผมน้อย ผมบาง ผลลัพธ์คือ ทุกเส้นผมกระเซิง มันเยิ้ม ไม่พริ้วสวยแบบในโฆษณาแชมพู คือต้องสระผมทุกวัน แต่ถึงจะสระผม ตอนเช้านั่งวินไปทำงาน ตอนกลับนั่งวินกลับหอ สภาพก็….อย่างที่เห็นค่ะ เหนียว พัน ถ้าจะเหนียวมันเยิ้มขนาดนี้ อย่าเรียกตัวเองว่าผมเลยค่ะ 555 ???? เพราะฉะนั้นคนรวยๆ อย่างเรา มีเงินก็ต้องใช้เงินค่ะ เริ่มมมม !!
Syoss Silicone Free Moisture
เริ่มที่ตัวแรกค่ะ Syoss Silicone Free Moisture ขวดใสไฮโซหรูหราหมาเห่ามากค่ะ กลิ่นหอมดี เค้าเคลมว่าเหมาะสำหรับผมลีบแบน ขาดชีวิตชีวา เข้าทางเลยค่ะ เราเป็นคนผมเส้นเล็ก มันง่าย แต่ปลายแห้ง เลยไปลองซื้อมาใช้ หลังสระรู้สึกว่าผมนุ่มดี ใช้แล้วปลายผมไม่แห้งค่ะ แต่จะรู้สึกหนักหัวหน่อยๆ ตัวนี้ราคา 139 บาท ใช้ปุ๊บ ออกไปทำงาน ถึงออฟฟิศปั๊บกระเซิงและเหนียวเหมือนเดิม 55555555555555555 รู้เรื่องค่ะ
Syoss Oleo 12
ให้โอกาส Syoss อีกรอบนึงค่ะ ตัวนี้คือ Syoss Oleo 12 เป็นสูตรสำหรับผมแห้งนะ หลังขวดบอกว่าผสานคุณค่าน้ำมันสกัด 12 ชนิดเพื่อการบำรุงผมที่ล้ำลึก ให้ผมเรียบลื่นพร้อมลดปัญหาผมแตกปลายเลยซื้อมาลองใช้ดูค่ะ กลิ่นหอมแบบน้ำหอมมากๆ เหมือนเอาน้ำหอมเทลงบนหัว ถ้าใครชอบน้ำหอมอาจจะติดใจ ส่วนเราไม่ให้ผ่านค่ะ ชอบกลิ่นที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ลองใช้แล้วผมนุ่มลื่นดีค่ะ แต่ไม่สบายหัวอย่างที่คิด สุดท้ายก็เหนียว ลีบ เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเพราะคุณค่าแห่งน้ำมันรึป่าวววว ฮืออออ ขวดนี้ ราคา 159 บาทค่ะ
Suave essentials Daily Clarifying
ตอนดมจากขวด กลิ่นหอมละมุน สดชื่นดีค่ะ พอสระผมเท่านั้นแหละ กลิ่นไม่ติดผมเลยอ่ะเสียใจ แต่ฟองเยอะดี ขวดละ 89 บาท
ใช้แล้วผมนิ่มดีค่ะ…….นิ่มอย่างเดียวจริงๆ 5555 ตกบ่ายก็เริ่มมันละ ไม่เบาสบายหัวเลย แอบพ่วงมาด้วยความหาซื้อยาก นี่ไปสอยมาจากวิลล่ามาร์เก็ต ใครชอบนิ่มๆไปลองดูค่ะ
Herbal essence weighty and strong
หอมมาก กลิ่นกุหลาบ ใช้แล้วผมพันกันนิดหน่อย เบาหัวแต่ปลายแห้ง ถ้าอยากให้ผมนุ่มก็คงต้องใช้ครีมนวดเสริมเอาก็จะช่วยได้ค่ะ แต่คือเป็นคนผมมันไง เคยใช้ตัวนี้กับครีมนวดแล้วหัวเหนียว ไม่อยากเติมน้ำมันให้ผมอีกแล้ว ราคาประมาณ 100 กว่าบาทซื้อมานานละ ขวดแบบนี้น่าจะเป็นรุ่นเก่า คุณแม่เราชอบอะไรคลาสสิคๆเลยมีขวดนี้ติดห้องน้ำตลอด นี่ก็แอบจิ๊กแม่มาใช้
Herbal essence colour me shiny
คือยาสระผมยี่ห้อนี้กลิ่นหอมทุกสี อันนี้ซื้อมาลองเพราะคิดว่าแพคเกจสวยทันสมัย น่าจะมีอะไรใหม่ๆ ปรากฎว่าไม่แตกต่างกับตัวเมื่อกี้เลย เหมือนกันเด๊ะๆ ข้อดีของมันคือกลิ่นหอมติดผมเลย แต่ข้อเสียเรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยช่วยเรื่องการบำรุงผมเท่าไหร่ ใช้แล้วมีอาการคันหัวนิดๆ หนักหัวหน่อยๆ แต่กลิ่นหอมจริง ใช้แล้วเหมือนเป็นเจ้าหญิง ออโรร่ากำลังอาบน้ำด้วยกลีบกุหลาบ 5555 ขวดละ 89 บาทจ้า
Sunsilk Natural Green Tea & Lemon Detox
อ่ะต่อกันที่ตัวนี้ อันใหม่ล่าสุดจากซันซิล อันนี้ประทับใจในความที่เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่สำคัญกลิ่นหอมสดชื่นมากกกกกกกก เป็นกลิ่นละมุนๆของชาเขียว ผสมกลิ่นเฟรชๆ ของเลมอน ผ่อนคลายดีค่ะ ใช้แล้วสบายหัว เหมือนได้ดีท็อกซ์เส้นผม อย่างที่เค้าว่าจริง เพราะรู้สึกได้ถึงความสะอาดสดชื่นมากๆตอนสระผม หลังเป่าผมเสร็จผมนี่เด้งสวย เบาสบายหัวเลยค่ะ นั่งวินไปกลับอโศก ผมยังพลิ้วสลวยเหมือนเดิมอ่ะ โอเครรร ให้ผ่านจ้ะ ขวดสีพาสเทลมีความพรีเมี่ยมกว่าเดิม ขวดละร้อยกว่าบาทซื้อตอนโปรลดราคา ประหยัดสุดๆ ภูมิใจทันของลดราคา 55555555555555555
นิ่มพร
นิ่มพร แชมพูมะกรูดสูตรไทยๆ ของเรานั่นเองงง ตัวนี้ใช้แล้วรู้สึกเหมือนเป็นเหาอีกครั้ง 5555 เหมือนตอนเด็กๆ ที่แม่เอาใบมะกรูดมาสระผมให้ คือกลิ่นมะกรูดมันทำให้เราผ่อนคลายมาก รู้สึกสดชื่นดีค่ะ แต่บางทีก็จะแอบเอ๊ะ นี่ฉันหยิบน้ำยาล้างจานมาสระผมรึป่าว 5555555555555555555 หลังสระผมแอบแห้งๆ กระด้างๆ นิดนึง บอกไม่ถูก คือมันจะรู้สึกฝืดๆ ไม่ลื่น แต่ก็รู้สึกสะอาดดี สุดท้ายจบด้วยความมันเหมือนดิม อ้อ…ขวดนี้ 96 บาทค่า
Panteen Shampoo Aqua Pure
ตัวนี้รู้สึกจะเป็นแชมพูใสตัวแรกมั้งที่ลองใช้ ขวดละ 149 บาท กลิ่นอ่อนๆ (อีกแล้ว) แต่กลิ่นก็ติดผมอยู่นะ ฟองเยอะ ใช้แล้วไม่หนักหัว แต่ผมจะแข็ง เราใช้แล้วปลายผมค่อนข้างแห้ง แนะนำให้ใช้สลับกับยี่ห้ออื่น หรือใช้ตัวนี้แล้วบำรุงตามเยอะๆ ไม่งั้นผมมันจะชี้ฟู
Pantene nature care fullness and life
แชมพูใสของแพนทีนอีกตัวนึง กลิ่นหอมแบบเฟรชๆ ราคา 119 บาท ก็ตามสไตล์แพนทีนอีกเช่นเคย เราใช้แล้วรู้สึกเหมือนกับที่ใช้แพนทีนตัวอื่นๆ คือไม่ต่างกันเลย ใช้แล้วผมไม่นุ่มเท่าไหร่ต้องตามด้วยครีมนวดเท่านั้น ไม่งั้นผมจะไม่พลิ้ว แต่โดยรวมโอเคอยู่นะ ทำความสะอาดได้ดี
Dove Volume Nourishment
หอมมากค่ะ ชอบกลิ่นสดชื่นๆ สระแล้วให้ความรู้สึกผมนุ่มๆ ลื่นๆ มีความพริ้วไหวของเส้นผมหลังจากไดร์เสร็จ ตัวนี้เป็นสูตรเพิ่มวอลลุ่มเพราะเค้ามีออกซฟิวชันเทคโนโลยี (อย่าถามว่าคืออะไร เพราะเราเองก็ไม่รู้ 55555) แอบไปเจอมาหลังขวด แต่สงสัยเค้าเพิ่มวอลลุ่มมากไปหน่อย ยังไม่ทันข้ามวัน หัวเริ่มมันละ
แฟซ่า
ยี่ห้อนี้คือเห็นมาตั้งแต่เกิดจริง ๆ เปลี่ยนขวดมาหลายแบบ จนมาถึงขวดที่รูปร่างเหมือนแป้งเย็นโพรเท็กซ์มากๆ กลัวหยิบผิด 55555 ใช้แล้วผมไม่มันเร็ว เย็นสบายหัวดี แต่กลายเป็นว่าผมแห้งไปเลยยย และกลิ่นแบบ เหมือนนั่งอยู่ในรถปิคอัพของพ่อมากเวอร์ กลิ่นแบบน้ำหอมในรถอ่ะ รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที ขวดนี้แม่ซื้อมาให้ นางบอกรำคาญจะเปลี่ยนยี่ห้ออะไรนักหนา แฟซ่านี่แหละของเก่าของแก่ ราคา 85 บาท ค่ะ
Moist Diane Scalp Shampoo
มาที่ของนอกกันบ้างดีกว่า Moist Diane Scalp Shampoo สูตรเพื่อผมมีน้ำหนักและบำรุงหนังศีรษะ ตัวนี้เมดอินเจแปน ขวดสวยสะดุดตาดีค่ะซื้อเพราะแพ็กเกจเลยนะเนี่ย 5555555 เหมือนขวดน้ำหอม แต่ใช้แล้วผมไม่ลื่น ออกไปทางกระด้างหน่อยๆ และแอบมันเร็วอ่ะ แต่ ยอมรับว่านางหอมจริงอะไรจริง ถ้าใช้คู่กับครีมนวดคงจะดี ตัวนี้ราคาประมาณ 300 กว่าบาท
Schwarzkopt Extra Care Hydro Collagen
ปิดท้ายด้วยแชมพูสัญชาติเยอรมัน Schwarzkopt Extra Care Hydro Collagen ใช้แล้วผมลื่นดีค่ะ ไม่พันกัน แต่ความมันนี่ต้องให้รางวัลเค้านะคะ 55 ส่วนกลิ่นมีความแอลกอฮอล์นิดนึง เหมือนเหล้า เหมือนเบียร์555555555555 ไม่รู้คิดไปเองป่าว ตัวนี้ซื้อเพราะขวดสวยอีกนั่นแหละ และมีความอินกับความเยอรมัน อะไรมาจากเยอรมันลองมันทุกอย่างค่ะ บ้าไปแล้ว ขวดนี้ราคา 75 บาทค่ะ
หลังจากที่เพียรพยายามตามล่าหาแชมพูที่เหมาะกับหนังหน้า เอ๊ยย หนังศีรษะและเส้นผมค่ะ เสียเงินลองไปหลายยี่ห้อมาก ต้องได้เห็นผลลัพธ์ค่ะว่ายี่ห้อไหนปัง!!! หรือว่ายี่ห้อไหนพัง!! อันไหนดี บุ๋มก็ว่าดีค่ะ 5555 ของจริงไม่ต้องพูดเยอะ ไปดูรูปกันเลยค่ะ เป็นรูปหลังจากสระผมของแต่ละยี่ห้อและทดสอบความมันค่ะ ว่ายี่ห้อไหน เอาอยู่ !!!! และบอกไว้ก่อนว่ารูปเยอะมาก ใช้เวลาหลายวันมาก มีความตั้งใจในการทำรีวิวครั้งนี้สูงงงงง
เริ่มจากรูปหลังจากสระผมของแต่ละยี่ห้อก่อน อันนี้รูปจริงไม่มีแสตนอินอะไรทั้งนั้น จะบอกว่าแชมพูใสใช้แล้วสบายหัวจริงอะไรจริง แต่บางตัวก็ผมแห้งอ่ะ อยากรู้ตัวไหนดียังไงลองซูมปลายผมเราดู ผลลัพธ์การใช้งานขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละคนเด้อออ ย้ำอีกครั้งว่าการทดสอบนี้เราใช้แค่แชมพูอย่างเดียวไม่มีครีมนวดผมนะคะ จะได้เห็นกันชัดๆไปเลยแชมพูใสอันไหนใช้แล้วผมไม่แห้งฝืด ทำให้ผมเรามีความพลิ้วไหว ใช้แล้วผมนุ่ม และอยากให้สังเกตดอกไม้ในรูปสักนิด อันไหนได้ดอกไม้เยอะๆ อันนั้นคือดีย์ของเรานะจ๊ะ
ต่อมาพิสูจน์ความมันบนหนังศีรษะกันค่ะ เราแอบใส่ดอกไม้เอาไว้เช่นเคย อันไหนมีดอกไม้เยอะๆ อันนั้นใช้แล้วหัวไม่มัน ไม่หนักหัว มีความเบาสบาย
ก็อย่างที่บอกแหละว่าแชมพูใสอ่ะให้ความเบาสบายหัวมากกว่าและไม่ทำให้ปลายผมแห้ง ดังนั้นคะแนนความชอบจะเทไปที่แชมพูที่ไม่ทำให้หัวมันและใช้แล้วผมนุ่ม งานนี้ลงทุนด้วยความชอบและความรู้สึกส่วนบุคคล ในฐานะที่ใช้เองทุกตัว ดังนั้นอะไรดีก็จะบอกว่าดี ไม่มีแอ๊บ
สระผมจนหนังหัวแห้งไปเลยค่ะงานนี้ 5555555 ขอปิดท้ายด้วยตารางเปรียบเทียบแต่ละยี่ห้อนะคะ เอาไว้เป็นอีกตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อแชมพูใสของเพื่อนๆ เผื่อมีคนสนใจมาเป็นแฟนคลับแชมพูใสอย่างเรา
ขอทิ้งท้ายไปด้วยคติที่คิดเองว่า “เลือกแชมพูผิด….คิดจนหัวเหนียว ????”
…………………….ขอบคุณค่าาาาา………………………..
นางงามแต่ละคนจะมีคะแนนเต็ม 15 คะแนนค่ะ!!!!
ขอบคุณข้อมูลและภาพสวยๆ จาก คุณสมาชิกหมายเลข 3743659
อัพเดทข่าวสารนิตยสารผู้หญิงผ่านทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @ladyissue (มี@นำ)