สำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้าบนผิวหน้าที่ทำให้จิตตกกันพอสมควร เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าฝ้าเป็นปัญหาใหญ่และหนักหน่วงมากๆ ของสาวไทยเมืองร้อนแดดแรงอย่างเรา และฝ้าเนี่ยก็เป็นอะไรที่รักษายาก บางคนอาจจะไม่หายสนิทแอบทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เจ็บช้ำน้ำใจอีกต่างหาก แต่อย่างเพิ่งท้อใจไปค่ะ! ที่บอกว่ารักษายากไม่ได้แปลว่ามันรักษาไม่ได้ แค่ต้องใช้เวลาและต้องใจเย็นกันสักหน่อยถึงจะผลชัดเจนนะจ๊ะ
วันนี้เรามี 5 วิธีในการรักษาฝ้ามาฝาก เป็นวิธีเบสิคๆ ที่คนเป็นฝ้าต้องรู้ในการรักษาฝ้าไม่ว่าจะเป็นมากเป็นน้อย มีอะไรบ้างมาดูกัน
ครีมกันแดดต้องทาทุกวัน
อย่างที่รู้กันว่าตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นไปจนถึงฝ้าฝังลึกจนหน้าลายเป็นแผนที่นั้น “แสงแดด” คือศัตรูตัวร้ายที่เราควรจะต้องเลี่ยง ไม่ว่าจะมีฝ้า กระอยู่ในระหว่างการรักษา หรือจะยังหน้าใสเนียนๆ ที่ไม่อยากเป็นฝ้าก็ต้องเลี่ยงแดดเข้าไว้ แม้จะเป็นวันที่เราอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนก็ตาม เพราะรังสี UV สามารถทะลุทะลวงผ่านหน้าต่างเข้ามาทำร้ายเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ การทากันแดดไม่ใช่การรักษาฝ้าโดยตรง แต่เป็นการปกป้องไม่ให้เกิดฝ้าซ้ำหรืออาการหนักขึ้นในระหว่างการรักษานั่นเอง ดังนั้นครีมกันแดดคือไอเท็มสำคัญมากที่เราควรจะทากันทุกวัน ห้ามขาด!
ครีมทาฝ้าต้องฉลาดเลือก
ครีมทาฝ้าเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีปัญหาฝ้าแต่เอาเข้าจริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าเราจะเลือกครีมทาฝ้ายี่ห้อไหนก็ได้นะคะ เพราะครีมทาฝ้าส่วนใหญ่ในท้องตลาดนั้นเป็นครีมทาฝ้าแบบที่รักษาด้วยการ “ลอกผิว” ให้ผิวค่อยๆ ลอกเอาผิวชั้นบนออกไปเรื่อยๆ จนลอกเอาส่วนที่มีสีเข้ม หรือส่วนที่เป็นฝ้าออกไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันได้ผลเร็วมากเชียวแหละ บางแบรนด์ถึงกับเคลมว่าตัวเองว่าเห็นผลเร็ว 3-7 วัน ทีเดียว
แต่ข้อเสียของการหายเร็วแบบนี้ย่อมมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับผิวหน้าแน่นอน เพราะจะทำให้หน้าบางลง และเมื่อหยุดใช้ก็ไม่ได้แปลว่าฝ้าจะหายขาดนะจ๊ะ ยิ่งผิวหน้าบางลงก็ยิ่งทำให้ผิวเราบอบบางไวต่อแสงแดดและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น เผลอๆ ก็กลับมาเป็นใหม่แถมอาการหนักกว่าเดิมซะด้วย! สิ่งที่เราควรมองหา คือ ครีมทาฝ้าที่ไม่มีส่วนผสมของ ไฮโดรควิโนน ที่ทำให้ผิวด่างขาว หรือเรทิโนอิดกรดวิตามินเอและสารปรอท ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิว ทำให้ผิวบาง
อะ! ถ้าใครนึกไม่ออก วันนี้เรามีครีมทาฝ้าใช้ดี และได้ทุกอย่างตามคอนเซ็ปต์ข้างต้นนี่คือครีมรักษาฝ้า “Concept Anti-Melasma” ที่มีสูตรเฉพาะจากสารสกัดทางธรรมชาติ ประกอบด้วย Alpha Arbutin, Vitamin B3 และ ODA white (OctadecenedioicAcid) ปราศจากสารกันเสีย(พาราเบน) ผ่านกระบวนการทดสอบจากผู้ใช้จริงเรื่องประสิทธิภาพและการระคายเคืองภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง ว่าเห็นผล 100 % ใน 3 สัปดาห์ และสามารถหยุดใช้ได้เมื่อฝ้าดูจางลง โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง รับรองผลโดยสถาบัน Spincontrol Asia Co., Ltd แน่นอนว่าไร้สารลอกหน้าที่ทำให้ผิวบางด้วย ใช้ไปได้ยาวๆ ซื้อติดบ้านไว้เลยก็ได้ค่ะ อาจจะต้องใช้เวลา 3 สัปดาห์ ถึงจะเห็นผลชัดนะจ๊ะ ของแบบนี้ช้าแต่ชัวร์ดีกว่าเนอะ
เห็นว่าเขามีขายอยู่ 2 ขนาด 2 ราคา คือ 12 กรัม 290 บาท และ 24 กรัม 450 บาท หาซื้อได้ตามร้านขายยาชั้นนำทั่วไป และ Watsons ลองไปถามหากันดูได้นะจ๊ะ
เลเซอร์สู้ฝ้า
ในส่วนของคนที่เป็นฝ้าโดยพันธุกรรมหรือเป็นหนักจนฝังลึกลงไปในชั้นผิวแล้ว นวัตกรรมจากการแพทย์ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีและเห็นผลไวที่สุด! หรือถ้าใครไม่ได้เป็นเยอะมากมายแต่กำลังทรัพย์ถึงและสะดวกทางนี้ก็ไม่ห้ามกันนะจ๊ะ
ต้องยอมรับว่าเมื่อทุกอย่างอยู่ในการดูแลของแพทย์แล้วก็มักจะดูเป็นทางที่ดีและปลอดภัยที่สุด สิ่งที่ต้องทำก็แค่ไปพบหมอตามนัดหมายและปฏิบัติทุกอย่างตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยส่วนใหญ่แล้วเลเซอร์รักษาฝ้าก็มักจะเป็นกระตุ้นให้ผิวค่อยๆ ลอกตัวเองออกเอาส่วนที่เป็นฝ้าออก ข้อเสียก็เหมือนกันกับการใช้ครีมทาฝ้าที่มีส่วนผสมของสารลอกผิวนั้นเอง คุณจะรู้สึกว่าผิวแห้งมากเป็นพิเศษต้องทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์อย่างหนักและต้องเลี่ยงแดดอย่างสุดตัวในช่วงที่เกิดอาการผิวลอกด้วย เพราะในช่วงนี้ผิวจะอ่อนแอแบบสุดๆ ก็ขอแนะนำให้ทำตามคำแนะนำของแพทย์ของคุณอย่างเคร่งครัดนะคะ
กินรักษาฝ้า
เรื่องของอาหารที่ใครๆก็มองข้ามไป คิดว่าคงไม่เกี่ยวและไม่ได้ช่วยให้เห็นผลอะไรเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้ว ผิวของเราเป็นอย่างไรนั้นก็เป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายด้วย ถ้าผิวเราดูหมองคล้ำ เห็นฝ้า กระชัดเจนแบบนี้ ก็แปลได้ว่าร่างกายของเราคงจะไม่ได้มีสุขภาพที่ดีสักเท่าไหร่ ควรเน้นทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ให้มากขึ้น วิตามิน C ใน ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง รวมถึงผักใบเขียวต่างๆ ด้วยที่มีไฟเบอร์เยอะๆ มีสารอาหารมากมายที่ผิวต้องการ แถมช่วยในการขับถ่ายล้างสารพิษในร่างกาย เป็นผลให้ผิวดูสดใส ไม่หมองคล้ำ ฝ้า กระ ก็จะค่อยๆ แลดูจางลงได้ตามธรรมชาติ
สูตรพอกหน้ารักษาฝ้าด้วยธรรมชาติ
มาดูสูตรแบบธรรมชาติกันบ้างดีกว่า เผื่อว่าใครเป็นสายออร์แกนิคชอบทำตามด้วยของก้นครัว ก็สามารถเอาไปทำตามกันได้นะจ๊ะ วันนี้เรามี 2 สูตรมาแนะนำดังนี้
สูตรมือปราบฝ้า หัวไชเท้า – นำหัวไชเท้าล้างสะอาดและปอกเปลือกแล้ว มาหั่นบางๆ นำไปปั่นหยาบๆ บีบน้ำมะนาวผสมเล็กน้อย แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝ้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แนะนำให้พอกสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง สูตรนี้คนเฒ่าคนแก่เขาการันตีมาว่าเด็ดมากและใช้กันมานาน ลองเอาไปทำตามกันดูนะคะ
ไข่ขาวลอกฝ้า – ใช้ไข่ขาวเพียวๆ มาพอกบริเวณฝ้าทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันและบ่อยได้ตามต้องการ ในไข่ขาวจะมีโปรตีนที่ชื่อว่า Albumin (อัลบูมิน) ที่ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกในผิวเสมือนการดีท็อกซ์ไปในตัว และวิตามินเอ ในไข่ขาวสามารถปรับสีผิวบริเวณที่เป็นฝ้าให้จางลงได้โดยที่ไม่ทำให้ผิวเกิดอาการแห้งลอกและบาง
สำหรับคนที่เป็นฝ้าแล้วอยู่ในขั้นตอนของการรักษาต้องขอเอาใจช่วยกันนะคะ เดี๋ยวหายแน่นอนอย่าใจร้อน อะไรที่มันเห็นผลไวไวนี่มันไม่เวิร์คหรอกเชื่อสิ ช้าแต่ชัวร์และปลอดภัยคือทางเลือกที่ดีที่สุดนะจ๊ะ อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวันและพิถีพิถันในการเลือกผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าที่มีคุณภาพรับรองว่าหายวันหายคืนแน่นอน!
ขอบคุณภาพจาก conceptcreamofficial, thelightbarr, homeremediescare, dermanities
อัพเดทข่าวสารนิตยสารผู้หญิงผ่านทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @ladyissue (มี@นำ)