เพราะเป็นวันที่ผู้หญิงสวยที่สุดในชีวิต เจ้าสาวทั้งหลายก็เลยทุ่มงบจ้างช่างแต่งหน้าเพื่อเนรมิตความงามกันแบบสุดใจ แต่อ๊ะๆๆ อย่าเพิ่งคิดว่าแค่จ้างช่างแต่งหน้ามืออาชีพแล้วจะสวยเด้งได้กันทุกคนนะจ๊ะ เพราะว่าที่เจ้าสาวเองก็ต้องดูแลตัวเองและผิวพรรณด้วยอีกแรง ไม่งั้นถ้าหน้าตาไม่สดใส ช่างดีแค่ไหนก็ช่วยไม่ไหวแหงๆ วันนี้เราก็เลยขอนำเอาเคล็ดลับน่ารู้สำหรับเจ้าสาว จาก Minimaru Makeup ช่างแต่งหน้ามืออาชีพ มาให้ว่าที่เจ้าสาวได้เตรียมตัว เตรียมผิวกันอย่างถูกวิธี ไปดูซิ..ต้องทำไงน้า
ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวอยากบอก: เตรียมตัวยังไงก่อนถึงวันแต่งหน้าเจ้าสาว
ช่วงเวลาสำคัญอย่างวันแต่งงานซึ่งเป็นวันพิเศษของผู้หญิงทุกคน แน่นอนว่าจะต้องมีการเตรียมตัวเตรียมผิวก่อนที่จะถึงวันแต่งหน้าเจ้าสาว ซึ่งว่าที่เจ้าสาวหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรและในช่วงเวลาไหน ดังนั้นไก่จึงสรุปและรวมวิธีการเตรียมตัวในระยะเวลา 3 เดือนก่อนถึงวันแต่งงานว่าควรทำอย่างไรบ้างค่ะ
3 เดือนก่อนแต่งงาน
– หาช่างแต่งหน้าเจ้าสาวและช่างผมตามสไตล์การแต่งหน้าที่ตัวเองชอบ ย้ำนะคะว่าตัวเองชอบ เพราะเจ้าสาวแต่ละคนย่อมมีลักษณะบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบแต่งหน้าอยู่แล้ว ขณะที่บางคนไม่ค่อยแต่งหน้าและไม่ชินกับการแต่งหน้าฟูลออพชั่นหรือสีสันจัดจ้าน โดยช่างแต่งหน้าเจ้าสาวแต่ละคนย่อมมีสไตล์การแต่งหน้าที่เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง
ดังนั้นว่าที่เจ้าสาวควรเลือกช่างตามแนวบุคลิกของตนเองที่จะช่วยเสริมให้เราสวยขึ้นและทำให้เรามีความมั่นใจในวันแต่งงานของเรา ในส่วนของช่างผมควรคุยกับช่างแต่งหน้าเจ้าสาวให้เรียบร้อยก่อนว่ามีทำผมด้วยมั้ยหรือเราต้องติดต่อเองเพื่อป้องกันความผิดพลาดในวันแต่งหน้าจริงนะคะ แต่โดยปกติช่างแต่งหน้าจะมีช่างทำผมทำงานคู่กันอยู่แล้วค่ะเมื่อเจอช่างที่ถูกใจแล้วอย่าลืมจองคิววันเวลาให้ชัดเจน อย่าชะล่าใจว่าถึงวันใกล้ค่อยทำการจองคิว เพราะใกล้วันแต่งงานช่างแต่งหน้าเจ้าสาวที่ถูกใจอาจจะคิวเต็มกันไปหมดแล้วก็ได้
– หากใครที่คิดจะลดน้ำหนักสักเล็กน้อยเพื่อให้ใส่ชุดเจ้าสาวได้สวยขึ้น ให้เริ่มซะตั้งแต่ตอนนี้ เพราะการลดน้ำหนักต้องใช้เวลาและต้องมีการวางแผนการกินที่ชัดเจน เริ่มต้นด้วยการกินผักให้มากขึ้น กินแป้งให้น้อยลง และออกกำลังกายให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
2 เดือนก่อนแต่งงาน
– เริ่มต้นดูแลผิวหน้าและผิวกายอย่างจริงจัง หากต้องการขัดผิว สปา ทรีตเม้นท์ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่สำคัญที่สุดคือทาครีมกันแดดทุกวัน ว่าที่เจ้าสาวคนไหนไม่ค่อยได้ดูแลผิวต้องหันมาสนใจจริงจังแล้วนะคะ
– ตัดผม เล็มปลายผมที่เสีย ช่วงเวลา 6-8 อาทิตย์ก่อนถึงวันแต่งงานเป็นเวลาที่เหมาะสม แต่ว่าอย่าตัดผมจนสั้นเกินไปเพราะในวันแต่งงานหากผมสั้นจะทำให้เกล้าผมไม่สวย ช่างทำผมอาจจะต้องใช้แฮร์พีชช่วยซึ่งแน่นอนว่าต้องมีข้อจำกัดซึ่งไม่สามารถทำให้สวยได้เท่าผมจริง
1 เดือนก่อนแต่งงาน
– ว่าที่เจ้าสาวที่อยากทำสีผมใหม่ให้ทำในช่วงนี้ได้เลย เพราะยังมีเวลาอีก 1 เดือนสำหรับการเปลี่ยนสีผมอีกครั้งในกรณีที่ไม่พอใจในสีผมใหม่และยังมีเวลาบำรุงผมให้ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องกังวลกับช่วงเวลาก่อนถึงวันสำคัญ
– คุยกับช่างแต่งหน้าเจ้าสาวและช่างทำผมให้เรียบร้อยในเรื่องของโทนการแต่งหน้า ทรงผมต่างๆ ความกังวลหรือปัญหาที่ทำให้ไม่สบายเช่นปัญหาผิวมัน สิว ปัญหาเรื่องผมบาง ผมหนา รวมถึงส่งรูปสีผมใหม่และรูปชุดแต่งงานเพื่อให้ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวและช่างผมได้เตรียมตัวก่อนถึงวันแต่งหน้า
2 อาทิตย์ก่อนแต่งงาน
– เริ่มต้นบำรุงผมอย่างจริงจัง หากใครที่ทำสีผมควรใช้แชมพูและทรีตเม้นท์เฉพาะที่ช่วยรักษาสีผมเดิมให้สวยอยู่เสมอ ในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนถึงวันแต่งงานไม่ควรทำสีผมใหม่เพราะผมจะเสียมากรวมถึงหากสีที่ทำไม่สวยหรือไม่พอใจจะเปลี่ยนสีใหม่ก็ไม่ทันจะทำให้เจ้าสาวหมดความมั่นใจในวันสำคัญเลยทีเดียว
– บำรุงผิว เริ่มต้นมาร์คหน้าด้วยมาร์คชีทหรือสลีปปิ้งมาร์คซึ่งอาจจะทำ 3 ครั้งต่อหนึ่งอาทิตย์ตามความสะดวกของเจ้าสาว ที่สำคัญคือห้ามทดลองครีมบำรุงผิวหรือทรีตเม้นท์ใหม่ๆในช่วงนี้เด็ดขาด หากเกิดอาการแพ้จะรักษาไม่ทัน ดังนั้นให้ใช้ครีมและมาร์คตัวเดิมที่เคยใช้เป็นปกติจะดีที่สุด
1 อาทิตย์ก่อนแต่งงาน
– คอนเฟิร์มวันเวลา สถานที่กับช่างแต่งหน้าเจ้าสาวและช่างผมอีกรอบ
– พยายามงดชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
1 วันก่อนแต่งงาน
– เป็นไปได้ให้งดแต่งหน้าในวันนี้เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากต้องแต่งหน้าควรล้างเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวให้สะอาดที่สุด
– สระผมโดยไม่ใส่ครีมนวดหรือทรีตเม้นท์ และเป่าผมให้แห้ง
– มาร์คชีทก่อนนอนหรือใช้สลีปปิ้งมาร์ค
– นอนให้เพียงพอ
ทั้งหมดนี้คือการเตรียมตัวแบบสรุปช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ว่าที่เจ้าสาวได้เตรียมตัวกันก่อนถึงวันสำคัญนะคะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Minimaru Makeup