กระทู้นี้เอาใจสาวๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่กับปัญหาสิวเดิมๆ เรียกว่า 3 วันดี 4 วันไข้ ทำยังไงก็ไม่หายขาด เม็ดนี้ดีขึ้น เม็ดใหม่มาอีกแล้ว อะไรที่เขาว่าดีทั้งยาแต้มสิว มาส์กลดสิวทั้งหลายก็ดูเหมือนจะแค่รักษาสิวที่ขึ้นใหม่เท่านั้น เพราะถ้าอยากให้สิวหายขาด ต้องแก้กันที่ต้นเหตุ! วันนี้เราเลยรวมไอเทมสำหรับสิวเทพๆ มาฝากสาวๆ พร้อมกับวิเคราะห์ เจาะลึกให้ดูกันเน้นๆเลยค่ะ
Product ที่เราเอามานี้ มีเกณฑ์สำหรับวิเคราะห์ 3 ข้อ โดยเราจะพิจารณาเป็นข้อๆ ซึ่งอาจมีประโยชน์ในการเลือกใช้ค่ะ
1. ลดการอุดตันของสิว: เมื่อลองใช้ไปสักระยะหนึ่งแล้วสิวอุดตันลดลงอย่างเห็นได้ชัด สิวหาย ไม่ค่อยกลับมาเป็นซ้ำ หรือนานๆที
2. อ่อนโยนต่อผิวใช้ได้ในระยะยาว: นอกจากลดการอุดตันของสิวแล้วต้องไม่ทำให้ผิวแห้ง หรือมีส่วนผสมของสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
3. ความสะดวกในการใช้งาน: สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และทาครบจบขั้นตอนเดียวไม่ต้องหาอะไรมาทาเพิ่มเติมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดสิวเพิ่มอีก
EUCERIN DermoPURIFYER DAY MAT WHITENING
นวัตกรรมสำหรับผิวเป็นสิวง่ายที่ลดสิวอุดตันและรอยสิวในหนึ่งเดียว คุณสมบัติที่เคลมคือ สิวจะไม่กลับมาอีก หยุดการเกิดซ้ำ พร้อมลดรอยดำ รอยแดงจากสิว มีส่วนผสมของ “ลิโคชาลโคน” ทำให้ช่วยลดการเกิดเชื้อสิว P. Acnes ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว และมี Natural White Active ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิว ผิวแพ้ง่ายที่มักจะแพ้สารผลัดผิวให้ขาว มี SPF30 อยู่ในตัว กันแดดได้ในชีวิตประจำวัน
วิธีใช้ : สามารถใช้เป็นสกินแคร์ Routine ในช่วงเช้าได้เลย จะจบที่ตัวนี้เลย หรือจะแต่งหน้าต่อก็ได้เลยค่ะ
สรุปผลการวิเคราะห์
1. ลดการอุดตันของสิว :
สิวอุดตันดีขึ้น สิวที่เป็นอยู่หายไป รู้สึกว่าคุมสิว ถ้าให้คะแนนได้ ตรงนี้จะให้เต็มค่ะ ทาไปแล้วหน้าดูขาวขึ้นได้ เหมาะมากกับคนเป็นสิวและอยากมีผิวขาวขึ้นค่ะ
2. อ่อนโยนต่อผิวใช้ได้ในระยะยาว :
ใช้ต่อเนื่องในระยะยาวได้เลยแบบไม่ต้องกังวลอะไร เพราะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีผลต่อการดูแลสิวค่ะ ไม่มีน้ำหอม สารผลัดผิว และพาราเบน เลยไม่แพ้ สบายใจได้
3. ความสะดวกในการใช้งาน :
ตัวนี้มี SPF 30 สามารถใช้กันแดดระหว่างวันได้เลย สะดวกตัวเดียวจบในตอนเช้าไม่ต้องหาครีมกันแดดเพิ่มให้เสี่ยงการอุดตัน เพราะบางทียิ่งทาครีมมาก สิวอาจขึ้นได้ค่ะ
LA ROCHE-POSAY EFFACLAR DUO [+]
อันนี้จัดอยู่ในกลุ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้า เหมาะกับคนเป็นสิว มี LHA และ salicylic acid ช่วยผลัดเซลผิว ช่วยกำจัดสิ่งอุดตันที่อยู่ในรูขุมขน สิวอุดตันจึงลดลง มี Procerad ลดการเกิดรอยดำ รอยแดงจากสิวได้ ช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า ใช้เป็น Makeup Base ได้ในทุกๆวันค่ะ
วิธีใช้ : สามารถใช้เป็นสกินแคร์ก่อนลงเมคอัพในช่วงเช้า แต่ตัวนี้ไม่มีสารกันแดดนะคะ จึงต้อไปหากันแดดมาทาเพิ่ม
สรุปผลการวิเคราะห์
1. ลดการอุดตันของสิว :
ใครที่มีปัญหาสิว แบบมีรอยแดง หลังทา 24 ชั่วโมง สิวที่แดงๆดูจางลง ควบคุมความมันได้ดี สังเกตว่าเวลาเป็นสิวแล้วจะไม่ค่อยทิ้งรอยแดงชัดเจนนัก
2. อ่อนโยนต่อผิวใช้ได้ในระยะยาว :
เนื่องจากเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ จึงมีความอ่อนโยนกว่ายา แต่มีส่วนผสมของ salicylic acid ซึ่งถ้ามีผิวแพ้ง่าย มากอาจจะไม่เหมาะ เพราะจะทำให้ผิวแห้ง เป็นขุย และมี sodium hydroxide มีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้ผิวเสียสมดุล อาจเกิดการระคายเคืองได้ มีส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ
3. ความสะดวกในการใช้งาน :
ตัวนี้เหมาะเป็น makeup base ทาง่าย สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะ แต่ติดที่ไม่มีกันแดดมาให้ จึงจำเป็นต้องไปหาครีมกันแดดมาทาเพิ่ม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการอุดตัน ดังนั้นให้เลือกกันแดดดีๆ ไม่เช่นนั้น สิวอาจกลับมานะคะ
Differin Adapalene 0.1% GEL
ยารักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ที่คุณหมอมักจะจ่ายให้ในเคสที่มีปัญหาสิวอุดตันที่อาจพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้แต่ไม่ได้มีในปริมาณที่มากนัก โดย Adapalene เป็นอนุพันธ์ของ Napthoic acid มีฤทธิ์คล้ายยากลุ่ม Retioniods มีฤทธิ์ในการควบคุมและต้านการแบ่งเซลล์ ทำให้ลดการอักเสบของสิว
วิธีใช้ : ทาทั่วหน้าบางๆก่อนล้างหน้า ทิ้งไว้ 5-10 นาที หรือตามแพทย์สั่ง แล้วล้างออก
สรุปผลการวิเคราะห์
1. ลดการอุดตันของสิว :
ด้วยความที่เป็นยา มีฤทธิ์ในการควบคุมและต้านการแบ่งเซลล์ ทำให้ลดสิวอุดตันที่มีแนวโน้มจะอักเสบได้ผลที่ค่อนข้างชัดเจนค่ะ ช่วงแรกที่ใช้สิวจะเห่อค่ะ เห่อมากเห่อน้อยแล้วแต่ผิวของเราค่ะ
2. อ่อนโยนต่อผิวใช้ได้ในระยะยาว :
เนื่องจากเป็นยา อาจทำให้ผิวบางได้ และหากทิ้งไว้นานเกินไป ผิวจะแสบ แดง และต้องเลี่ยงแสงระหว่างการรักษา ไม่ควรใช้ต่อเนื่องในระยะยาว เพราะผิวจะไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น
3. ความสะดวกในการใช้งาน :
หาซื้อได้ตามร้านขายยา แต่ต้องระวังในการใช้เป็นอย่างมาก ใช้รักษาเฉพาะจุด และต้องใช้ตามแพทย์สั่งหรือคำแนะนำจากเภสัชกรอย่างเคร่งครัด ต้องล้างออกทุกครั้งที่ใช้ยา และต้องระวังแสงแดดนะคะ สรุปคือเห็นผลดี แต่ใช้ยากค่ะ
Epiduo 0.1% / 2.5% Gel
Epiduo นั้นมี Adapalene 0.1% และ Benzyl peroxide 2.5% ซึ่งทำให้ได้ผลการรักษาเหมือนกับการผสมยา Benzac กับ Differin เข้าด้วยกัน เพราะฉะนั้นยา Epiduo จะเหมาะกับคนที่เป็นทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตันพร้อมๆ กัน
วิธีใช้ : ทาบริเวณที่เป็นสิวบางๆทิ้งไว้ก่อนนอนได้โดยไม่ต้องล้างออก หรือจะล้างออกก็ได้ ถ้ารู้สึกคันยิบๆหลังการใช้
สรุปผลการวิเคราะห์
1. ลดการอุดตันของสิว :
มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและช่วยผลัดเซลล์ผิวให้สิวแห้งเร็วได้ มีกรดวิตามิน A ที่สามารถลดการสร้างไขมันของรูขุมขน ซึ่งทำให้หน้ามันน้อยลงและอุดตันน้อยลงด้วย
2. อ่อนโยนต่อผิวใช้ได้ในระยะยาว :
ผิวอาจแห้งและมีอาการแสบแดง คัน ลอก เป็นขุย หากมีผดผื่น สิวอักเสบขึ้นบ้างหลังใช้นิดหน่อย ก็ยังถือว่าเป็นอาการปกติของตัวยา ซึ่งอาการจะหายไปหลังจากใช้ยาต่อเนื่อง 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าอาการสิวเห่อรุนแรงควรหยุดใช้ เพราะนั่นคืออาการแพ้ค่ะ
3. ความสะดวกในการใช้งาน :
ระหว่างที่เราทายา ควรงดทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHA การขัดหน้า หรือทำเลเซอร์ เพราะหน้าเราจะถูกรบกวนมากเกินไป และยามีส่วนผสมของ Benzac อาจทำให้เสื้อผ้าเป็นด่างได้ค่ะ เลี่ยงบริเวณที่เนื้อผิวบางและไม่ควรให้ผิวโดยแสง
ทั้งหมดนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหากันที่ต้นตอของสิวอย่างแท้จริง ลองศึกษาตัวเองดีๆ ว่าเหมาะกับอันไหนก็เลือกใช้แบบนั้นนะจ๊ะ แต่อย่าลืมว่าการที่เราพยายามรักษาสิวให้หายขาด เราต้องพิถีพิถันในการเลือกใช้ และต้องอ่อนโยน หากใช้ยาสิว ซึ่งอาจมีผลข้างเคียง จะต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์เท่านั้น ซึ่งถ้าเราเกิดแพ้ขึ้นมา อาจจะเป็นหนักกว่าเดิม สิวก็ไม่หายขาดอยู่ดีคะ ดังนั้นการอ่อนโยนต่อผิว พร้อมดูแลสิวอย่างถูกต้อง เลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ใช้สำหรับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ จะทำให้รักษาสิวเห็นผล และหายได้อย่างถาวรนะคะยูววว