1.อย่าไปเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง เมื่อสภาพผิวหน้าของคุณกำลังย่ำแย่
เพราะคุณจะได้รับคำแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหรือเครื่องสำอาง ที่ให้การปกปิดที่หนาแน่น ในช่วงที่สภาพผิวของคุณดีขึ้นแล้ว เครื่องสำอางที่ได้มา ณ ตอนนั้น ก็เกินความจำเป็นของคุณมากเกินไป
2.มองหาพนักงานขายที่ถูกชะตา
ให้มองหาพนักงานขายที่ถูกใจสไตล์การแต่งหน้าของเขา ละสีผิวใกล้เคียงกับเรา เพราะเป็นไปได้ว่าพนักขายจะมีความชอบใกล้เคียงกับเรา
3.เข้าหาพนักงานขายก่อนที่เขาจะเข้าหาเรา
การเข้าหาพนักงานขายก่อนจะทำให้เราได้รับการบริการอย่างใส่ใจมากขึ้น แถมทำให้เรากล้าที่จะถามถึงข้อสงสัยในผลิตภัณฑ์ที่เรามีมากกว่า และโอกาสที่จะซื้อของที่ไม่ถูกใจ ความกลัว (หรือความเกรงใจ)พนักงานขายน้อยลง เพราะเราเปิดบทสนทนาก่อน
4.บอกความต้องการที่ชัดเจน
ไม่ต้องเกรงใจที่จะบอกพนักงานว่ามองหาผลิตภัณฑ์ชิ้นใด คุณชอบหรือไม่ชอบอะไร ให้บอกกับพนักงานขายให้ชัดเจน เพื่อที่เขาจะได้แนะนำคุณได้ถูก หรือแม้จะแค่เข้ามาดูเฉยๆ ก็บอกเขาไปเลย เขาจะได้คอยดูแลคุณอยู่ห่างๆ ไม่กวนใจคุณ
5.พกทิชชู่เปียกติดตัวไว้
เอาไว้ใช้เช็ดคราบเครื่องสำอางออกจากมือ เมื่อลองผลิตภัณฑ์จนพอใจแล้ว ถ้าคุณจะไปช้อปเสื้อผ้าต่อ จะได้ไม่ไปเลอะเทอะเสื้อผ้าในร้าน หรือเลอะเสื้อของคุณเอง
6.ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ
จำไว้ว่าเราไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเลย ไม่จำเป็นต้องซื้อตาม Beauty Blogger หรือดาราคนไหนทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อตามคำเชียร์ของพนักงานขายด้วย ถ้าคุณไม่ชอบเครื่องสำอางชิ้นนั้น
ขอให้สนุกกับการ shopping เครื่องสำอางที่เคาน์เตอร์ และได้ของที่ถูกใจกลับบ้านกันนะคะ 🙂
This Blog by AUENG-AYE
1 Comment
ชอบข้อ 3 ฮ่าๆ