[แก้จมูก] อุทาหรณ์…หมอเถื่อน!!!!

สวัสดีคะ 🙂
เรื่องราวที่นำมาแชร์ต่อไปนี้อาจจะยาวสักหน่อย
แต่อยากให้อ่านกันนะคะ เชื่อว่าเรื่องราวของเอิงต้องเป็นอุทาหรณ์ และประกอบการตัดสินให้ให้เพื่อนๆได้อย่างดีเลยละค่ะ

เอิงมีโอกาสรู้จักและสนิทเพื่อนอยู่คนนึง เขาสวยขึ้นเรื่อยๆจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย
แต่เขาไม่เคยยอมบอกใครเลยว่าไปทำอะรัยมา??
จนกระทั้งวันหนึ่งเขามาชวนเอิง กับเพื่อนอีกคนให้ไปทำธุระเป็นเพื่อนเขา เราก็ว่าไหนๆก็ว่างไปก็แล้วกัน
ใกล้ๆบ้านด้วย เสร็จธุระ ตรงนั้นก็กลับบ้านง่ายด้วย พอไปถึงเป็นคอนโดคะ เป็นห้องคอนโด
ห้องพักธรรมดาที่ไม่ได้แต่งอะไรเพิ่มเติมนั้นหละคะ แบบไม่ได้มาอยู่ถาวร แบบมาเปิดห้องชั่วคราว
ก็จะมีแค่เตียง กับเก้าอี้นั้งซักผ้าตัวเล็กๆเต็มห้องไปหมด เข้าไปมีคนนั่งเกือบเต็มแล้วคะ

โอ้โห!!!!!! เขามาทำอะรัยกันเยอะแยะ งงคะ กลัวคะ อะไรเนี่ยยยย
พอนั่งฟังคนอื่นคุยกันสักพัก ชัดเลยคะ! หมอเถื่อนชัดๆเลย
คอนโดแบบนี้ แอบมากันแบบนี้ … หมอเถื่อนดีดีนี่เอง

รู้ตัวแล้วควรที่ที่ไม่ควรจะมาซะแล้ว เพื่อนคนดีของเอิงเขามาเติมฟิลเลอร์(มั้ง)ที่จมูกคะ
แล้วก็มาฉีดคางเพิ่ม จุดที่พลาดที่สุดมันอยู่ตรงนี้คะ ด้วยความที่เอิงอยากทำจมูกมาก มากแบบแลังกาล
อยู่แล้วเป็นทุนเดิม ก็นั่งคุยกับคนอื่นๆที่มาทำที่นี่ เขาก็ว่าดีอย่างงั้น ดีอย่างงี้ ฟิลเลอร์ของแท้นะ บลา บลา บลา..

เคลิ้มคะ เคลิ้มมมมม.. ไปกับคำพูดต่างต่าง นานา

แต่… ด้วยความเป็นเด็กดี(ดื้อ)ของเอิง ไหนๆมาแล้ว ลองซะหน่อยคงไม่เป็นไร ฟิลเลอร์เดียวมันก็สลายหายไปเองแหละ เราก็แค่ฉีดนิดเดียวให้มันมีอะรัยมากั้นระหว่างตาก็พอเนอะ แม่ก็ไม่รู้หรอกม๊างงงงงง เพื่อนเราที่พามานางก็ฉีดเยอะแยะ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย คงไม่เป็นอะไรหรอกน่า สุดท้ายก็ตัดสินใจฉีดคะ

เอิงฉีดไป  2 เข็ม ราคาเข็มละ 1,000 บาท เท่านั้น !!

หลังจากวันไหนผ่านมาเป็นระยะเวลาประมาณ2ปีกว่าๆ จมูกเอิงเริ่มเปลี่ยนรูปร่างคะ จากที่เคยไม่มีปัญหาอะไร
แต่ตรงปลายเริ่มเบี้ยวเบาๆคะ แค่เบาๆ คนอื่นอาจจะไม่ได้สังเกตเห็น แต่เอิงแต่งหน้าตัวเองทุกวันคะ

เอิงเริ่มทำงานเป็น make up artist คะ การแต่งหน้าตัวเองเป็นเรื่องง่ายมากๆเปลี่ยนลุคไปเรื่อยๆ
ไม่ซ้ำเลยสนุกกับการแต่งหน้าตัวเองและแต่งให้คนอื่นคะ เจอนางแบบมาค่อนข้างเยอะ
บอกได้เลยในฐานะช่างแต่งหน้าตัวเล็กๆคนหนึ่ง คนเราแค่จมูกเป๊ะ ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วละคะ
หัดกลับมาส่องจมูกตัวเอง  เอิ่มมมม….. คือปลายนางเบี้ยวเล็กน้อย ดั้งก็ยังแหมบเหมือนเดิม
แถมคล้ำๆไปก็ยังเจออะรัยหยึ๋ยๆอยู่ตรงปลายที่เบี้ยว กับสันที่ตุ๋ยๆด้วย
เริ่มนึกขึ้นได้ว่ามันผ่านมาก็สองปีกว่าละนะ ทำไมยังมีไอหยึ๋ยๆ นี่อยู่ มันไม่ตลกละ TT___________________TT

ปลายจมูกที่เบี้ยวเล็กหน่อย กับดั้งแหมบๆของเอิงเป็นอุปสรรคต่อการแต่งหน้ามากคะ
ต้องใช่เวลาปั้นนานมากกว่าจะทำให้ทุกอย่างแลดูสมดุลเพราะจมูกที่ดูผิดรูปร่าง
ทำให้ทุกอย่างดูเบี้ยวไปหมด คงเป็นเพราะจมูกเราอยู่ตรงกลางด้วย ยิ่งเจอแต่นางแบบที่หน้าเป๊ะๆ
อยากจะซ้อนตัวเองไว้ในหลืบมากเลยคะ

ฮื้อออออ…
ปมด้อยดั้งแหมบของเอิงเริ่มกลับมาพร้อมความกังวลที่มากกว่าเดิม เพราะไอก้อนหยึ๋ยๆ ที่คล่ำเจอมันดูจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว เพราะลูบๆไปแล้วเริ่มเจ็บแปลบๆคะ โอ้ยยยยยยยย!!! เอิงแย่แล้วคะ

ทนไม่ไหวแล้ว สุดท้ายความกลัวมันอัดอั้นมาก จนต้องคลานมาปรึกษาขุ่นแม่ที่เคารพ
และเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังทั้งหมด และยอมทนหูชาไปชุดใหญ่ที่สุดที่เคยเจอออ

สุดท้ายคุณแม่ไล่ให้ไปแก้คะ ไปเอาข้อมูลมา นำเสนอซะ!!

โอ้ววว…  เอาเข้าจริงๆ การตัดสินใจเลือกคุณหมอหรือสถานที่ที่เราจะทำจริงๆ มันไม่ง่าย
จะไปแก้ที่ไหนดีละทีนี้ ยิ่งเคสเราเป็นหมอเถื่อนด้วย หมอท่านไหนจะรับแก้บ้างเนี่ย
น้ำตาตกในเลย เสียใจกับการตัดสินใจครั้งนั้นมาก ไม่น่าเลยยย แม่ก็ต้องมานั้งเครียดด้วย
อยากจะตีตัวเองให้ฟิลเลอร์หลุดออกมาเองเลย ฮื้ออออออ ;’(

หลังจากนี้เอิงไปแก้จมูกที่ไหนยังงัย มาติดตามกันต่อนะคะ…