ถ้าพูดถึงเทรนด์บำรุงผิวหน้ายอดฮิตในยุคนี้ ก็ต้องนึกถึง Essence หรือน้ำตบมหัศจรรย์ ที่วิธีใช้ไม่ได้แค่ทาทั่วหน้าเหมือนครีม แต่จะเป็นเนื้อโลชั่นที่ต้องตบเบาๆ ให้ซึมเข้าสู่ผิวนั่นเอง! แต่พอเริ่มฮิตหลายคนก็เริ่มงง ว่าเอ๊ะ..แล้วต้องลองใช้ตัวไหนดีล่ะเนี่ย? เราก็เลยคัดตัวเด็ดๆ ยอดฮิตมาแนะนำสาวๆ กันค่ะ ^^
1. SK-II Facial Treatment Essence
เป็นขุ่นแม่ในวงการน้ำตบเลยจริงๆ สำหรับ SK-II (เอสเค-ทู) ที่มีเอสเซนส์ตัวดังสุดๆ หลายคนเรียกกันว่า “น้ำป้าเจี๊ยบ” เพราะมีพรีเซ็นเตอร์หน้าเด็กอย่าง เจี๊ยบ โสภิตนภา ที่ทำให้สาวๆ จำแบรนด์นี้ได้ พอๆ กับความเทพของน้ำมหัศจรรย์จากพิเทร่า ที่ตบเบาๆ ทุกวัน แป๊บเดียวเห็นผลเลยว่าหน้าใสจริงอะไรจริง ก็เลยขึ้นแท่นกลายเป็นน้ำป้าเจี๊ยบในตำนานที่ควรค่าแก่การลอง ราคาประมาณ 2,800 บาท
2. Biotherm Life Plankton Essence
ส่วนอันนี้ก็มาทีหลังแต่ดังแรงมาก! สำหรับน้ำตบแพลงตอนของ Biotherm ขวดสีฟ้าที่เห็นปุ๊บก็จำได้เลย จุดเด่นคือ Life Plankton ที่เค้าใส่มาในขวด จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหน้าโดยเฉพาะพวกรอยแดงได้ดีมาก ผิวชุ่มชื้นแล้วก็แข็งแรงขึ้น ก็เลยกลายเป็นน้ำตบตัวแรงที่ฮิตไม่แพ้กันเลย ราคาประมาณ 2,300 บาท
3. Hada Labo
ใครหน้าแห้งขาดน้ำ แล้วต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ก็คงรู้จักน้ำตบราคาเบาๆ แต่ขายดีสุดๆ ในญี่ปุ่นอย่าง Hada Labo ที่ฮิตกันมานานแล้วเนอะ เพราะราคาไม่แพง แค่ตบเบาๆ ลงบนผิวก็จะรู้สึกได้เลยว่าหน้าชุ่มชื้นขึ้นจริง แค่อาจจะไม่ได้ช่วยได้หลากหลายในขวดเดียวเหมือนพวกแบรนด์ไฮเอนด์ แต่ราคาประหยัดกว่ากันเกินครึ่ง ก็ถือว่าคุ้มเหมือนกันค่ะ ที่ฮิตที่สุดก็คือ ขวดสีขาว ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นล้วนๆ, ขวดสีน้ำเงิน ช่วยเรื่องความขาว และขวดสีแดง ช่วยเรื่องริ้วรอยต่างๆ ราคาประมาณ 500 บาท
4. Estee Lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion
มีตัวเด็ดอย่าง ANR หรือเซรั่มเทพ Advance Night Repair เป็นตัวขายดีสุดๆ แล้ว แต่พอปล่อยไลน์ Essence ออกมาก็ถือว่าฮิตไม่แพ้กัน เค้าเป็นไมโครเอสเซนส์ที่ใช้แล้วจะซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย พอใช้จะรู้สึกผิวนุ่มๆ ฟูๆ เหมือนผิวแข็งแรงมากขึ้น ติดอยู่นิดเดียวราคาแรงไปตามคุณภาพเลย >.< ราคาประมาณ 3,700 บาทค่ะ
5. Tony Moly Intense Care Galactomyces First Essence
งานเทียบก็ต้องมาค่ะ! หลายคนคงเคยได้ยินว่าน้ำตบ Tony Moly จากเกาหลี คือตัวตายตัวแทนของน้ำป้าเจี๊ยบในราคาถูกกว่า เพราะมีพิเทร่าเป็นจุดขายเหมือนกัน หลายคนบอกว่าใช้แล้วรู้สึกรูขุมขนกระชับขึ้นจริง และช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ตามสไตล์เกาหลี แต่อาจจะเห็นผลช้ากว่าต้นตำรับนิดนึง มีให้เลือกสีแดง (สูตรเดิม) และสีน้ำเงิน (สูตรใหม่) ราคาประมาณ 1,000 กว่าบาทค่ะ
ได้รู้จักกับน้ำตบยอดฮิตกันไปแล้ว อย่าลืมเตือนสติตัวเองก่อนพุ่งตัวไปสอย ว่าเอสเซนส์เข้มข้นแบบนี้โอกาสแพ้ก็มีสูงนะคะ ลองปรึกษาที่เคาน์เตอร์เพื่อขอเทสต์ดูก่อน จะได้ไม่เสียตังค์ฟรีน้าาา ^^
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก rocaille-writes, chloeash, rocaille-writes, mostlysunnyblog, etonymoly
อ่านเพิ่มเติม:
- รีวิว น้ำตบพิเทร่า™ ในตำนาน กับเรื่องที่ควรรู้ก่อนใช้!
- สกินแคร์ 5 แบรนด์ที่เหมาะกับหน้าหนาว หมดปัญหาผิวแห้ง
- 10 แผ่นมาสก์ใต้ตา 2020 ที่คนนอนน้อยต้องมี!!