ในยุคนี้ต้องยอมรับจริงๆว่าเทรนด์หน้าเรียว V-shape นั้นมาแรงมากจริงๆ ซึ่งช่วงนี้ก็มีนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีเกอดใหม่มาให้เราได้เลือกใช้บริการกันเพียบเลย แล้วแต่ละสถานพยาบาล หรือคลีนิกความงามจะเลือกใช้กัน อันนี้ก็ต้องไปหาข้อมูลกันแบบละเอียดๆอีกที แต่สรุปโดบรวมแล้ววิธีที่ฮิตกันมากในตอนนี้ก็มีอยู่ประมาณ 6 วิธีที่เราเอามาเล่าให้ฟังในวันนี้ ยังไงก็ลองเก็บข้อมูลเยอะๆ ก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ
1.ร้อยไหม
เป็นการปรับรูปหน้าให้เรียววีเชฟเข้ารูป ด้วยการร้อยไหมละลายชนิดพิเศษ เข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นเลือกใหม่ ทำให้เกิดการคอลลาเจนรอบๆเส้นไหม โดยร้อยสานกันเป็นร่างแห โดยจะเห็นผลหลังทำประมาณ 2-3 อาทิตย์ และหน้าจะเรียวเข้าที่ในอีก 1 เดือน ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น อาจมีรอยช้ำบริเวณที่ลงเข็มบ้าง แค่ 3-7 วัน รอยก็จะค่อยๆหายไป
2. Mesofat
เป็นการฉีดสลายไขมัน เพื่อลดไขมันและลดเซลลูไลต์เฉพาะที่บนใบหน้า ด้วยการฉีดสาร Phosphatidylcholine ที่สกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดง และวิตามินเข้าไปที่ใบหน้าในบริเวณที่มีการสะสมของไขมันที่เป็นสาเหตุให้หน้ายุ้ยนั้นเอง แน่นอนว่าวิธีนี้เหมากับสาวที่เหนียงออกเพราะไขมันไม่ใช่กล้ามเนื้อนะคะ
3. โบท็อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อบนใบหน้า
โบท็อกซ๊ คือสารจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ ที่สกัดจากแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายชนิดหนึ่ง ที่มีความสามารถทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและช่วยให้ริ้วรอยลดลง ต่อต้านการเกิดริ้วรอยใหม่ การถูกโบ๊อกซ์ที่ถูกต้อง ถูกวิธีกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คุณดูเด็กลงแบบธรรมชาติ ไม่หน้าตึงจนขยับไม่ได้แน่นอน
4. ฉีดฟิลเลอร์คาง ให้คางยาวเรียวขึ้น
อีกวิธีที่ง่ายสุดๆ และเห็นผลทันที สำหรับสาวคางสั้นที่ยังไม่อยากตัดสินใจไปเสริมคางอย่างจริงจัง แนะนำให้ลองไปฉีดฟิลเลอร์เพื่อนเพิ่มความยาวเรีวของคางกันดูก่อนได้นะคะ เห็นผลทันที อาจมีรอยช้ำบ้างแล้วแต่คน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์นั้นก็แนะนำให้เลือกสถานประกอบการที่น่าเชื่อถือ และแพทย์ที่มีฝีมือดีด้วยนะคะ ถ้าคางดูเบี้ยวไปละแย่เลย
5. ใช้เลเซอร์ หรือคลื่นวิทยุ
เรียกว่าเป็นวิธีที่เสี่ยงน้อยที่สุดก้ว่าได้ เป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ที่สามารถผ่านทะลุผิวชั้นบนได้ เพื่อไปค่อยเพิ่มๆอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นที่ลึกลงไป ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือด ระบบน้ำเหลืองทำงานดีขึ้น เป็นผลให้ร่างกายขับของเสียออกมาในรูปของเหงื่อ เป็นการสลายไขมันแบบที่ไม่ต้องใช้เข็มและไม่ต้องผ่าตัดใดใด เรียกว่าไม่ต้องเสียเลือดเลยนั้นเอง แต่เครื่องเลเซอร์ หรือเทคโนโลยีที่แต่ละที่เลือกใช้นั้นก็แตกต่างกันไป ก็ต้องลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอหรือสถานความงามที่น่าเชื่อถือดูกันก่อนนะคะ
6. ผ่าตัดตกแต่งกระดูกกราม
วิธีเรียกได้ว่าเป็นการศัลยกรรมแบบเต็มๆ และมีความเสี่ยงมากที่สุด ซึ่งก็ต้องใช้เวลาหาข้อและตัดสินใจให้ดี การตัดกรามเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนที่สุด และการผ่าตัดนี้ เป็นการผ่าตัดใหญ่ทีเดียว แพทย์จำเป็นต้องมีความชำนาญสูงมาก ซึ่งแพทย์จะทำการตัดเข้าไปตัด หรือตกแต่งกระดูกกรามที่ไม่เข้ารูป ให้ได้รูปสวยเป็น V-shape แบบที่ยอดฮิตในปัจจุบัน ซึ่งการผ่าตัดนั้นสามารถทำได้สองแบบ คือแบบเปิดแผลในนอกช่องปาก วิธีนี้จะไม่เกิดแแผลเป็นภายนอก อีกวิธีคือ ผ่าเปิดเแผลภายนอก ซึ่งแน่นอนว่าอาจเกิดแผลเป็นได้ แล้วแต่บุคคลและความชำนาญในการเย็บแผลของแพทย์ด้วย ทั้งนี้ใครเหมาะกับแบบไหนก็แล้วแต่ลักษณะรูปกรามของแต่ละคนด้วยนะคะ ยังไงลองปรึกษาศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญดูก่อนนะคะ
เอาหละ!! ย้ำอีกทีนะคะ ว่า LADYISSUE อยากให้สาวๆ เก็บข้อมูลเยอะๆ ก่อนตัดสินใจและที่สำคัญที่สุดคือการเลือกสถานพยาบาล หรือสถานความงามที่ปลอดภัยน่าเชื่อถือ และเลือกศัลยแพทธ์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้นเอง ยังไงก็ต้องหาข้อมูลห้มากที่สุดก่อนจะตัดสินใจนะคะ