คงไม่มีใครอยากเจอเหตุการณ์นี้ใช่ไหมคะแต่ถ้าใครกำลังแพ้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์อยู่ อย่าเพิ่งท้อใจไปค่ะ รับรองว่ามีทางแก้และวันนี้สมิทตี้ก็ไม่ลืมที่จะนำเคล็ดลับดีมาบอก สาวๆ สบายใจได้เลยว่า หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ผิวหน้าจะค่อยๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะมีวิธีใดบ้างเราไปเริ่มกันที่ข้อแรกเลยค่ะ
งดใช้ผลิตภัณท์ที่ออกใหม่
ถึงจะอยากใช้แค่ไหน ก็อย่าเพิ่งเชื่อคำโฆษณาเพราะบางทีหน้าเราก็ไม่ได้เหมือนหน้าสวยๆ ของพรีเซนเตอร์นะคะ อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใหม่อาจจะมีส่วนผสมแปลกๆ ถ้าเราใช้อาจจะยิ่งเกิดอาการแพ้เพิ่มขึ้นอีกได้ ดังนั้นไม่เสี่ยงจะดีกว่าค่ะ
น้ำเปล่าดีที่สุด
ในการทำความสะอาดผิวหน้า ควรใช้น้ำเปล่าในการล้างถึงว่าล้างเสร็จแล้วอาจยังรู้สึกไม่สะอาดอยู่บ้าง แต่เชื่อเถอะว่าน้ำเปล่าจะดีที่สุด สำหรับผิวช่วงนี้ที่ต้องได้รับการฟื้นฟูและที่สำคัญคือ ไม่ควรให้ใบหน้าสัมผัสพวกสารเคมีหรือส่วนผสมแปลกๆ ที่มีอยู่ในโฟมล้างหน้า ดังนั้นการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจะดีที่สุดในช่วงนี้ค่ะ
ไม่ไปแคะแงะแกะเกา
ช่วงที่ผิวอยู่ระหว่างการแพ้จนถึงช่วงที่อยู๋ในการฟื้นฟู มันจะเกิดอาการจะคัน ยุบยิบๆ เป็นอาการที่กวนใจเรามากที่สุดเลยล่ะ สาวๆ ต้องพยามยามฝืนไว้นะ ต้องผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ เพราะยิ่งไปสัมผัสมันก็เหมือนยิ่งไปกระตุ้น จะยิ่งคันไปกันใหญ่และทำให้เกิดผื่นตุ่มน้ำใสต่างๆ ตามมา ดังนั้นเชื่อสมิทตี้เถอะ ฝืนใจกันหน่อยน้า
ไม่ไปเทสต์เครื่องสำอางค์ที่เคาน์เตอร์
เพราะมันเสี่ยงมากเลยที่จะไปติดเชื้อโรคต่างๆ คิดดูซิว่า บลัชออน หรือลิปสติกพวกนั้นมีคนลองใช้มาแล้วกี่คน เอานิ้วมาสัมผัสมาแล้วกี่คน เจ้าเหล่าเชื้อโรคนี้คงรวมตัวกันแน่นเลยล่ะ อย่าเสี่ยงเลยดีกว่าเนอะ
เช็คว่าเราแพ้เครื่องสำอางตัวไหน
เพื่อป้องการการเกิดอาการแพ้ซ้ำอีกครั้ง เราควรเช็คดูให้ดีว่าที่ผ่านมาเราใช้เครื่องสำอางตัวไหนแล้วเกิดอาการแพ้ ถ้าคิดไม่ออกจริงๆ จำเป็นต้องทิ้ง ก็อย่าไปเสียดาย เมื่อเทียบกับใบหน้าของเราแล้ว กว่าจะฟื้นฟูผิวกู้มันกลับขึ้นมาได้ ใช้เวลาไม่ใช่น้อยๆ แล้วจะยอมมาเสี่ยงอีกหรอคะสาวๆ
หลังจากนี้ผิวสาวๆ จะดีขึ้นจากการแพ้เครื่องสำอาง และผิวจะถูกฟื้นฟูในช่วงเวลานี้แน่นอนค่ะ แล้วอย่าลืมเอาวิธีเหล่านี้กลับไปใช้นะคะ สมิทตี้เป็นห่วงจ้า
ขอบคุณภาพจาก salpolp, wayofliving, elle, bodyandsoul, healthtap