หากพูดถึงศูนย์การค้า Lifestyle ที่รวบรวมร้านสุดแนว และการมีไลฟสไตล์ที่เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งยังมีร้านอาหารเจ้าดังให้เราได้เช็คอินมากกว่า 70 ร้าน ในย่านรัชดาภิเษก แน่นอนว่าต้องเป็นศูนย์การค้า เอสพละนาด รัชดา ซึ่งในวันนี้ต้องบอกว่า เอสพละนาดได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งเหล่าร้านค้าและร้านอาหารที่มาเปิดใหม่ บรรยากาศที่ดูคึกคักยิ่งขึ้น ทำให้เราอดใจไม่ไหวที่จะพาคุณไปชิมเมนูเด็ด ตามที่ได้ยินเสียงร่ำลือกันมาว่า หากได้มาที่เอสพละนาด ต้องไม่พลาด 10 ร้านดังนี้
Hakata Shogun Ramen
เริ่มกันที่ร้านแรก Hakata Shogun Ramen โดยเอกลักษณ์ของร้านนี้คือการเรียกลูกค้าของคุณลุงชาวญี่ปุ่น รวมถึงบรรยากาศร้านที่เมื่อเข้าไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ โดยเมนูแนะนำของร้านนี้เป็น ทงคตสึราเมง ความโดดเด่นคือความหอมของน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นสูตรต้นตำหรับราเมงญี่ปุ่น มาพร้อมหมูชาชู และทีเด็ดคือไข่มะตูมที่กักตุนความอร่อยไว้อย่างเต็มที่ ใครที่ชื่นชอบการทานราเมงอยู่แล้วต้องไม่พลาดราเมงคุณลุงร้านนี้ ซึ่งทางร้านมีให้เลือก 3 ขนาด S M และ L ให้คุณได้เลือกอิ่มได้อย่างพอดีๆ แต่วันนี้เราขอลองไซส์ใหญ่สุด ในราคา 225 บาท ซึ่งต้องบอกว่าร้านนี้เป็นราเมงที่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น และหากใครอยากทานราเมงแบบแซ่บๆ ก็ขอแนะนำ ราเมงต้มยำกุ้ง รับรองว่าถูกใจคนที่ชอบอาหารรสจัดอย่างแน่นอน การันตีความอร่อยด้วยเหล่าบรรดานักแสดงและผู้มีชื่อเสียงที่มาทานแล้วถ่ายรูปแปะไว้ที่ผนังร้านทั้ง 2 ด้าน ร้าน Hakata Shogun Ramen อยู่ที่ชั้น B ใกล้ๆกับ Tops Supermarket
แซ่บอิลี่ Everyday
ร้านที่ 2 เหมาะกับผู้ที่ชอบอาหารรสจัดจ้าน เผ็ดร้อน แซ่บสมชื่อกับชื่อร้าน แซ่บอิลี่ Everyday ซึ่งหากใครคิดว่านี่มันส้มตำไฮโซหรือเปล่าจะแซ่บหรอ แต่เมื่อได้ลองทานแล้ว ขอบอกเลยว่า “นัว” มาก ตำปูปลาร้านี้มาแบบข้นคลั่ก มีให้เลือกระดับความเผ็ด หลายระดับ หรือจะเป็นเมนูส้มตำไข่มะตูมกุ้งสด วัตถุดิบแน่นเครื่องใส่มาเต็มๆ ทั้งไข่มะตูมและกุ้งสด รสชาติเปรี้ยวหวาน จัดจ้านอีกแล้ว ผิดกับส้มตำในห้างทั่วไป ร้านนี้ขอยกนิ้วให้เลย ว่าแซ่บถึงใจ เมนูก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่นส้มตำปูปลาร้า ตำข้าวโพดไข่เค็ม ผัดมาม่าป้าตือ ปูอ่องข้าวเหนียวนุ่ม(แนะนำมาก) คอหมูย่าง และสองเมนูที่แนะนำให้สาวๆไม่ควรพลาดคือ ต้มแซ่บคอลลาเจนทานพร้อมกับน้ำใบเตยคอลลาเจน ที่ทานแล้วหน้าตึงเปรี้ยะ ผิวเด้ง เหมาะสำหรับสาวๆนัดกันมาทานส้มตำสวยๆ แถมถ่ายรูป uploadได้เพราะร้านตกแต่งไว้เป็นอย่างดี ใส่ใจทุกรายละเอียด เป็นอีกร้านที่พลาดไม่ได้ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น B ลงบันไดเลื่อนมาก็เจอเลย
ร้าน ส(ถา)นีเตี๋ยวเรือ
มาต่อกันกับร้านที่ 3 ร้านนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ชั้น G คนเยอะไม่แพ้กัน แต่รอคิวไม่นานเพราะมีพนักงานเยอะให้บริการไว กับร้าน ส(ถา)นีเตี๋ยวเรือ ซึ่งร้านนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 18 บาท ราคาดีงามอยู่ในห้างเสียตังค์ไม่ถึง 100 บาทก็อิ่มได้ ซึ่งก๋วยเตี๋ยวเรือของร้านนี้มีให้เลือกทั้งหมูและเนื้อ พร้อมผักสดมาเสิร์ฟฟรี เติมได้ตลอด และทีเด็ดหลังจากทานของคาวเสร็จแล้วแนะนำให้ตามด้วยของหวานที่ถือว่าเป็นทีเด็ดของร้านนี้ คือ ลอดช่องน้ำกระทิสด ส่งตรงมาจากสิงห์บุรี กะทิหอมหวานมันเต็มๆ และ สำหรับโปรโมชั่นพิเศษ เพียงกด Like เพจ สถานีเตี๋ยวเรือ และ Share บทความนี้ รับไปเลย น้ำอัญชันมะนาว ฟรี 1 แก้ว ซึ่งเป็น น้ำlimited ยังไม่มีวางขาย มีให้เฉพาะผู้ที่เห็นบทความนี้เท่านั้น
Bonchon Chicken
มาต่อกันที่ร้านที่ 4 ซึ่งเชื่อว่าหลายๆท่านคงคุ้นชื่อกันดีกับร้าน Bonchon Chicken แต่เขามาเปิดที่เอสพละนาด รัชดาแล้วนะรู้ยังสำหรับเรื่องไก่คงไม่ต้องพูดถึงมากของเค้าดีอยู่แล้ว แต่หากใครอยากจะลองเมนูอื่นๆบ้าง เราขอแนะนำเกี๊ยวซ่า (Gyoza) รสชาติซอยการ์ลิค (soy garlic) ในราคา 120 บาท อัดแน่นด้วยเนื้อหมูสับและผัก ทอดจนกรอบนอก นุ่มใน ลองแล้วจะติดใจ เลยขอแนะนำให้เป็นอีกเมนูที่ควรสั่งเพิ่มมาทานคู่กับไก่ทอดยอดฮิตของร้านนี้
ฮอทสตาร์ ไก่ทอดไซส์ XXL
ร้านที่ 5 ยังคงเอาใจคนรักไก่ทอดอีกร้าน ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ข้างๆกันนั่นคือ ฮอทสตาร์ ไก่ทอดไซส์ XXL อันดับหนึ่งจากไต้หวัน หลังจากที่เปิดตัวมาให้คนฮือฮา ถ่ายรูปไก่ใหญ่กว่าหน้า กันทั่วเมือง วันนี้ทางร้านมีเมนูใหม่มาแนะนำคือ Taipei Squid ปลาหมึกทอดราดซอสไข่เค็มลาวา ที่ใช้ปลาหมึกทั้งตัว ใหญ่สะใจ หมักด้วยน้ำหมักนำเข้าจากไต้หวัน คลุกด้วยแป้งสูตรพิเศษเฉพาะ นำไปทอดด้วยไฟแรง จึงได้ปลาหมึกกรอบนอกนุ่มใน รสชาติกลมกล่อม เสริมความอร่อยด้วยซอสไข่เค็มลาวา นำมาราดทั่วตัวปลาหมึก อร่อยเข้มข้น เค็มๆ มันๆ เข้ากันได้ดี ตัวร้านฮอทสตาร์สาขาเอสพละนาดนี้ เรียกว่าแตกต่างจากสาขาอื่นอย่างเห็นได้ชัด ตัวร้านตกแต่งโทนสีฟ้า และตัดสีเหลืองพอให้มี gimmick มีที่นั่งรับประทาน และที่สำคัญมีช่องเสียบ USB ไว้ให้ชาร์ทโทรศัพท์ถ่ายรูป Check-in กันได้อย่างเต็มที่
YogurtLand
พักเบรคมาที่ของหวานกันบ้างกับร้านที่ 6 ไอศครีมโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพ อยู่ชั้น G เหมือนเดิม กับร้าน YogurtLand ร้านนี้โยเกิร์ตเค้าไม่ธรรมดา นำเข้า Frozen Yogurt มาจากอเมริกา เป็นโยเกิร์ตที่ทานแล้วไม่อ้วนและได้สนุกกับการเลือกเติม Topping ที่มีอยู่อย่างหลากหลาย (สาวๆระวังอ้วนด้วยตัวทอปปิ้งนี่แหละ) ตัวโยเกิร์ตเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่าง แต่ตัดใจจากไอศครีมไม่ได้ หรือถ้าใครที่อยากลองอย่างอื่น ทางร้านก็มี sorbet ไว้ให้ได้ลิ้มรสความอร่อย ที่สำคัญมีหลายสูตรให้เลือก โดยจุดเด่นคือผสมวัตถุดิบจริงลงไปทั้งหมดไม่มีการแต่งสีหรือกลิ่นแต่อย่างใด อีกไม่นานจะมีรสรูทเบียร์ มาให้ได้ลองกันแล้วนะ คิดราคาตามน้ำหนักเริ่มที่ ขีดละ 80 บาท แถมยังมีช้อนตักให้สะสม ถึง 5 แบบ อีกด้วย
ร้านมานีมีหม้อ
มาต่อกันด้วยร้านที่ 7 ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น M ได้แก่ ร้านมานีมีหม้อ ในตำนาน ไม่ทานไม่ได้แล้ว ซึ่งตอนนี้มีชุดพิเศษเป็น ชาบูมันกุ้ง เมนูหม้อสุดอร่อยที่มีวิธีการทานโดยการให้ใส่ผักลงไปก่อนตามด้วย ลูกชิ้นกุ้ง หมู เกี๊ยวต่างๆ ราดด้วยไข่ดิบ แล้วโปะด้วยมันกุ้งแบบเน้นๆ รอให้สุกสักพักแล้วช้อนตักทานแบบเต็มๆคำ แค่วิธีการทานก็ชวนให้น้ำลายสอแล้ว แต่หากใครที่ไม่อยากทานชาบูแต่อยากลิ้มรสความอร่อยของมันกุ้ง ทางร้านมานี มีหม้อก็ยังมีอีกเมนูสุดเด็ดให้ได้ลอง นั่นคือ ข้าวหน้ามันกุ้งเสวย by คุณหรีด ราคา 128 บาท ซึ่งให้ทานแบบคำโตๆ ลิ้มรสข้าวที่คลุกซอสสูตรพิเศษรสชาติเค็ม เปรี้ยว เผ็ด ผสมด้วยมันกุ้งและไข่มะตูมที่โปะมาข้างบน ได้รสชาติที่แปลกใหม่ แต่ยังไม่กลบตัวไฮไลท์ของอาหารอย่างมันกุ้ง ของแบบนี้บอกไปอาจไม่เชื่อ ต้องลองค่ะ ต้องลอง
Snowtree
ร้านที่ 8 เป็นขนมหวานส่งตรงจากเกาหลี ซึ่งตอนนี้กำลังฮิตเป็นอย่างมาก กับร้าน Snowtree ความอร่อยจากเกล็ดหิมะนม หรือเรียกอีกอย่างว่า Bingsoo วัตถุดิบคุณภาพดีนำเข้าจากประเทศเกาหลี รสชาติหอมนมหวานมันยิ่งกินยิ่งเพลิน เป็นเกล็ดหิมะทำจากนมสดแท้ 100% ซึ่งรสชาตินุ่มลิ้นสุดๆและมีความละเอียดมาก เหมือนปุยหิมะ แถมให้เราเลือกความอร่อยแบบที่ชอบด้วยการเลือกหน้าทอปปิ้งแบบต่างๆ ที่มีทั้ง สตอเบอร์รี่ ช๊อคโกแลตบราวนี่ หรือผงถั่ว ร้านนี้ตั้งอยู่หน้าบรรไดเลื่อนชั้น M หาได้ไม่ยากเลย
Wasabi Japanese Restaurant
ร้านที่ 9 ที่บอกเลยว่าพลาดไม่ได้กับร้าน Wasabi Japanese Restaurant อยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งร้านนี้มีเมนูอาหารเยอะแยะมากมาย แถมบรรยากาศร้านมองเห็นถนนรัชดาทั้งเส้นด้วย เพลิดเพลินกับวิวไปแล้วก็มาดูเมนูอาหารตรงหน้า วันนี้เลือก “โทนิว นาเบะ หรือ ชาบู ในน้ำเต้าหู้” ซึ่งมีให้เลือกทั้งเนื้อหมูและเนื้อวัว จุดเด่นของเมนูนี้ก็คือ เนื้อปลอดสารพิษ ชนิดพิเศษเกรดสีเขียวซึ่งเป็นเกรดที่คุณภาพสูงที่สุด พร้อมความสดใหม่ทุกวัน ไม่ผ่านการแช่แข็งค้างคืน และเป็นเนื้อที่สไลด์ได้พอดีคำ น่ารับประทานด้วยเครื่องสไลด์ชนิดพิเศษ ตามด้วยผักสดเพื่อสุขภาพหลายชนิด เน้นเห็ด 3 อย่าง ซึ่งประกอบด้วย เห็ดเข็มทอง เห็ดโคนญี่ปุ่น และเห็ดหอมสด ซึ่งคนญี่ปุ่นมีเคล็ดลับว่าการรับประทานเห็ดให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จะต้องทานเห็ดให้ได้ 3 ชนิดต่อการรับประทานอาหาร 1 มื้อ น้ำซุปที่ทำจากเต้าหู้พิเศษไม่เหมือนใคร และเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 สูตรพิเศษที่ทำจากงาสับเฉพาะร้านวาซาบิ เมื่อตอนต้มจะได้กลิ่นเบาๆของน้ำเต้าหู้และเมื่อเอาเนื้อหมูลงจุ่มไม่นาน เอาขึ้นมาจิ้มน้ำจิ้มพอนซึรสชาติตัดกันได้ดีอร่อยมาก เมนูนี้ต้องห้ามพลาด นอกจากอร่อยแล้วยังได้ประโยชน์อีกด้วย
Jones’ Salad
ร้านสุดท้ายท้ายสุดกับร้านที่ 10 ถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือร้าน Jones’ Salad ที่จัดว่าเด็ดคือน้ำสลัดของลุงโจนส์ คิดสูตรมาเพื่อให้ถูกปากคนไทยโดยเฉพาะ เสิร์ฟพร้อมผักปลอดสารพิษสั่งจากฟาร์มมาส่งที่ร้านทุกวัน เติมทอปปิ้งต่างๆได้ตามใจชอบมีให้เลือกหลากหลาย แถมซื้อเป็นของฝากของคนที่บ้านได้เป็นอย่างดี ถ้ามาร้านนี้ตอนเย็นๆจะเห็นคิวของสาวๆออฟฟิศ และหนุ่มๆที่มาฟิตเนส ต่อแถวรอซื้อกันแถวยาว ซึ่งเมนูที่เราอยากแนะนำนั่นคือ ปูอัดแซ่บ เป็นสลัดปูอัดเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดสูตรพิเศษ ทานเท่าไหร่ก็ไม่เลี่ยน ทางร้านยังมีบริการหั่นเป็นคำๆ ให้ทานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เอาใจคนรักสุขภาพอย่างแน่นอน
ครบเรียบร้อยแล้วกับ 10 ร้านต้องห้ามพลาดที่เอสพละนาด รัชดา หากวันหยุดหรือเวลาว่างยังไม่มีกิจกรรมไปที่ไหน ก็สามารถมาตามลายแทง 10 ร้านอร่อยได้เลย หรือใครค้นพบเมนูอร่อยเมนูอื่น ก็มาแชร์กันได้ ต้องขอบอกว่า เอสพละนาดไม่ได้มีแค่โรงภาพยนตร์และโรงละครเท่านั้น ยังมีร้านให้เลือกอีกมากมาย มีการเปลี่ยนแปลงของร้านอาหารภายในทั้งเพิ่มจำนวนและปรับโฉมตอกย้ำคอนเซ็ปต์ ‘Esplanade Eat & Play’ ศูนย์การค้า Lifestyle ที่รวบรวมร้านอาหารเจ้าดัง และความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในย่านรัชดาภิเษก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกกลุ่มเป้าหมาย