ใครจะผลิตเครื่องสำอางสร้างแบรนด์ต้องศึกษาไว้นะคะ จะได้คุยกับโรงงานผู้ผลิตถูก ถ้ามาดูกันจริงๆสารเหล่านี้อยู่ในเกือบทุกแบรนด์เลยค่ะ เราใช้ครีมของหมออยู่ หันมาดู ingredients ด้านหลังแทบช็อค มีสารเหล่านี้เกือบหมดเลย ประเทศอื่นเค้าไปถึงไหนต่อไปกันแล้ว ประเทศเราต้องเริ่มตื่นตัวได้แล้วค่ะ
1. ParabenS
พาราเบนเป็นสารกันบูดที่ถูกใช้ในแชมพูและเครื่องสำอางทุกชนิด ! ประเทศเดนมาร์คเป็นประเทศแรกที่ห้ามใช้สารพาราเบนในเครื่องสำอางสำหรับเด็กหลังจากนั้น EU ก็ได้ประกาศห้ามตาม พาราเบนจะซึมเข้ากระแสเลือดง่ายมาก ทำให้ไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมน และมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม
2. Pthalate
พาทาเลตคือตัวทำละลายที่ใช้ในน้ำหอมและสารกำจัดศัตรูพืช เป็นสารเคมีก่อมะเร็งยอดฮิตตัวหนึ่ง และปัจจุบันก็แฝงตัวอยู่ในส่วนผสมของเครื่องสำอางภายใต้ “Fragrance” นั่นก็คือน้ำหอมในฉลาก ingredient นั่นเอง
3. Formaldehyde
ฟอร์มาลดีไฮด์ อาจไม่ค่อยคุ้น ถ้าพูดว่าฟอร์มาลิน จะคุ้นกว่าไม๊ค๊าาาาา สาร Formaldehyde ถูกใช้เป็นสารกันบูดในเครื่องสำอาง เป็นสาเหตุให้คนส่วนมากเกิดอาการแพ้ ซึ่งแคนาดาประกาศใช้เลยว่าห้ามนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ Personal Care ทุกชนิด นอกจากนี้สารอันตรายดังกล่าวยังถูกใช้ในน้ำยาทาเล็บ และน้ำยายืดผม (กรี๊ดดด) ซึ่งบางทีใน ฉลาก ingredients เราอาจจะไม่เจอค่ะ เพราะสารได้ผสมเป็นเนื้อเดียวกับตัว Raw Materials เรียบร้อยแล้ว
4. Petroleum distillates
ปิโตเลี่ยมกลั่น มีลักษณะของเหลวไม่มีสี ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเป็นตัวละลายสารในเครื่องสำอางที่อยู่ในรูปของเหลว โดยเฉพาะมาสคาร่าเพราะมีราคาถูก รวมถึงครีมรองพื้น โลชั่นเช็ดเครื่องสำอาง ทำให้ผิวพัง โรคผิวหนังและเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง
5. Hydroquinone
ไฮโดรควิโนนเป็นสารที่ถูกนำมาใช้ในการฟอกสี สามารถทำให้หน้าขาว ฝ้าหายได้เร็วมาก เมื่อนำมาผสมกับ Vitamin A และ Steroid แต่ผลที่ตามมาน่ากลัวมากหลังจากใช้ไปจะเกิดสิว เป็นฝ้าดำกว่าเดิม เกิดฝ้าเส้นเลือดทำให้หน้าแดงกะดำกะด่าง ข่าวดีคือ คุณสามารถทดสอบครีมรักษาฝ้าได้เองแล้วค่ะ ดังนี้ โดยปาดครีมขนาดสักเมล็ดถั่วเขียว มาผสมกับผงซักฟอก แล้วบี้ให้เข้ากัน สักเล็กน้อย นำมาวางบนกระดาษทิชชูแล้วก็หยดน้ำเปล่าสัก 2-3 หยด รอสักพัก ถ้าเห็นคราบออกดำๆ บนกระดาษทิชชู ก็สงสัยไว้เลยว่า ผลิตภัณฑ์นั้นน่าจะมีสาร Hydroquinone เป็นส่วนประกอบ คุณพระ ! (เดี๋ยวต่อไปถ้าไม่ลืมจะทำรีวิวให้ดูค่ะ)
6. Octinoxate
ส่วนผสมนี้ถูกใช้บ่อยๆในครีมกันแดดหรือครีมรองพื้นที่ผสมครีมกันแดดที่มีค่า SPF ทำให้ครีมซึมเข้าผิวหนังอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวแพ้ง่ายและไปหยุดยั้งฮอร์โมน และอาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยที่จะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายที่สามารถทำลายผิวและเซลล์ มีคำแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ zinc หรือ titanium แทน
7. Methyl cellosolve
สารนี้ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ anti-aging creams, moisturizers and serums เป็นพิษต่อระบบประสาทและระคายเคืองที่อาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของดีเอ็นเอ นอกจากนี้เราอาจจะไม่เห็นว่าถูกระบุใน ingredients label เพราะว่ามันอยู่ในรูปของ “น้ำหอม” หรือ Perfume ในฉลากนั่นเอง
8. Butylated hydroxyanisole (BHA)
ใช้ในการยืดอายุของลิปสติก ,moisturizers, ครีมโกนหนวด, น้ำหอม สถาบันใน EU ระบุว่าเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ถูกห้ามใช้ในน้ำหอม และที่ California บังคับว่าถ้าใช้สารนี้ต้องมีคำเตือนระบุในฉลาก
9. Quaternium-15
สารกันบูดที่ใช้ในเครื่องสำอาง ครีมอาบน้ำ แป้งอัดแข็ง แชมพู ครีมนวดผม และอายชาโดว์ ซึ่งทำให้ระคายเคืองดวงตา และเป็นสารก่อภูมิแพ้
10. Nanoparticles
อนุภาคนาโนในครีมกันแดด นักวิจัยชาวออสเตรเลียพบว่าสามารถซึมเข้ากระแสเลือดและทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกายได้