เทรนด์สีผมแซ่บๆ ยังคงมาแรงไม่เลิก สาวๆ ที่ตามเทรนด์หลายคนก็เลยกลายเป็นสาวผมเสียไปเรียบร้อย #เค้าขอโทษ โอ๋ๆ แต่อย่าเพิ่งเซ็งไปนะคะ เพราะถึงแม้สีผมสวยๆ จะทำให้เราผมเสีย แต่ทุกปัญหามีทางแก้จ้า อยากกลับมาผมสวยอีกครั้ง แค่ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้แหละ จบข่าว!
1. อย่าสระผมบ่อยเกินไป
อาจจะฟังดูเป็นคนไม่สะอาดเท่าไหร่ แต่มันคือเรื่องจริงนะจ๊ะ เพราะการสระผมทุกครั้งนอกจากจะล้างสิ่งสกปรกออกไปแล้ว เราก็ต้องล้างน้ำมันธรรมชาติออกไปจนหมด ทำให้ผมแห้งฟูอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าใครสระผมแล้วต้องเป่าผมทุกครั้งยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอานุภาพการทำลายล้างก็โหดร้ายพอกัน ทางที่ดีควรเว้นช่วงของการสระผมสัก 3-4 วัน แล้วหาดรายแชมพูมาใช้แก้ขัดไปก่อน แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้จะได้ผลดีกว่าค่ะ
2. ใช้ลีฟออนตอนผมเปียก
ส่วนใหญ่เราจะใช้ครีมบำรุงผมที่เรียกกันว่า ลีฟออน ในตอนที่ผมแห้งแล้ว เพื่อให้ผมนุ่มลื่นแบบทันตาเห็น แต่สำหรับคนที่ฟอกสีผมมาอย่างหนักจนผมบางแล้วก็ขาดง่ายมาก จำเป็นต้องใส่เซรั่มบำรุงผมกันซะตั้งแต่ตอนผมยังหมาดๆ เลยค่ะ เพราะช่วงที่ผมเปียกและเกล็ดผมยังเปิดอยู่เซรั่มบำรุงผมจะแทรกซึมเข้าไปได้ง่าย แถมถ้าปล่อยให้แห้งทั้งที่ผมยังไม่ผ่านการบำรุง ผมจะพันกัน ทำให้หวียาก เสี่ยงจะผมเสียมากกว่าเดิมอีก
3. กันแดดให้ผมด้วย!
นี่ไม่ได้มุกและไม่ได้หมายถึงผู้ชายที่ไหนนะจ๊ะ แต่เป็นผมเสียๆ จากการฟอกสีผมของเรานี่แหละ เพราะสภาพที่แห้งเปราะก็ทำให้ผมเยินมากพออยู่แล้ว ดังนั้นการโดนแดดจัดๆ รับรังสียูวีมาอีก รู้มั้ยว่าเป็นการทำร้ายผมได้เหมือนกัน ทางที่ดีลองฉีดสเปรย์ป้องกันแดดสำหรับผม หรือใส่หมวก กางร่ม เอาผ้าคลุม เวลาต้องออกแดดจัดๆ ด้วย โดยเฉพาะเมืองไทยเรานี่แหละ
4. ทำผมให้เปียกก่อนลงสระว่ายน้ำ
ใครจะไปว่ายน้ำหลังจากที่เพิ่งผ่านการฟอกสีผมมา แนะนำให้ทำผมตัวเองให้เปียกโชกก่อนค่ะ เพราะเราใส่น้ำมันบำรุงผมก่อนลงสระว่ายน้ำไม่ได้ ดังนั้นวิธีที่จะช่วยให้ผมได้รับสารคลอรีนน้อยที่สุด คือการทำให้ผมเปียกก่อนนั่นเอง ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะดูดซึมสารคลอรีนเข้าไปทำร้ายได้อีก เผลอๆ ถ้าเล่นน้ำนานๆ สีผมอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้
5. ทำแฮร์มาสก์อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
ผมที่เสียมากๆ ควรมีการบำรุงด้วยทรีทเมนต์ผมแบบเข้มข้นอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง โดยการหมักผมทิ้งไว้ จะซื้อแฮร์มาสก์เทพๆ มาใช้ หรือทำแฮร์มาสก์สูตรธรรมชาติใช้เองก็ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนผสมหลักๆ ก็คือ น้ำมันมะพร้าว, ไข่แดง, น้ำผึ้ง, นม, น้ำมันมะกอก เป็นต้น
6. เล็มผมบ่อยๆ ชีวิตจะดี
หมั่นไปตัดผมเพื่อค่อยๆ เล็มปลายที่แห้งเสียออกบ่อยๆ จะทำให้ผมไม่ขาดและหลุดร่วงมากกว่าเดิม นอกจากนี้การเข้าร้านทำผมให้ดูแลเส้นผมให้บ่อยๆ จะทำให้ได้รับคำแนะนำและการดูแลผมอย่างถูกวิธีด้วยนะคะ จะได้ไม่กลายเป็นคนผมเสียถาวรให้ช้ำใจเล่น
7. พักร้อนยาวๆ
ไม่ใช่การลาพักร้อนไปเที่ยวแต่อย่างใด แต่เป็นการโบกมือบ๊าย บาย กับอุปกรณ์ทำความร้อนที่ต้องใช้กับผมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไดร์เป่าผม, เครื่องหนีบผม, เครื่องม้วนลอน หรือแม้กระทั่งการอบไอน้ำที่บ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผมที่เส้นบางและอ่อนแอลง ได้รับความร้อนจนหยิกหยอย กลายเป็นผมช็อตจนกู่ไม่กลับ
8. ใช้น้ำมันใส่ผมช่วยอีกทาง
เพราะผมที่แห้งและฟูฟ่อง อาจทำให้จัดทรงเท่าไหร่ก็ไม่ได้ดั่งใจสักที แนะนำให้หาน้ำมันใส่ผมมาใช้แก้ขัดระหว่างฟื้นฟูผมเสียไปก่อนค่ะ โดยใส่น้ำมันลูบๆ บนผม ไม่ต้องเน้นที่โคนผมมากเพราะจะทำให้ดูหัวลีบๆ จากนั้นก็หวีให้เป็นทรงมากขึ้น น้ำมันใส่ผมจะช่วยให้ผมดูมีน้ำหนักและสุขภาพดีมากขึ้นชั่วคราว
9. ซับเบาๆ ให้ผมหมาด ไม่ใช่ขยี้จนแห้ง
เวลาสระผมเสร็จ หลายคนก็งานรีบมาเลยค่ะ ใช้ผ้าขนหนูขยี้ๆๆๆ จนหัวฟูเป็นสิงโตนาร์เนีย ที่จริงแล้วเป็นวิธีที่ผิดนะจ๊ะ เพราะการขยี้แบบนั้นถึงผมจะแห้งเร็วก็จริง แต่ก็ทำให้ผมพันกันยุ่งเหยิงไปหมด วิธีที่ถูกต้องคือค่อยๆ ใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ ให้เปียกน้อยที่สุด จากนั้นก็ใส่เซรั่มบำรุงผม แล้วปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติ
10. พักผมจากสารเคมีบ้าง สัก 2 เดือนเว้น 1 เดือน
หลายคนทำสีผมแล้วก็ต้องทำต่อเนื่องยาวๆ คอยหมั่นไปเติมโคน เพิ่มสี ให้สวยไม่ดูดำๆ ด่างๆ แต่คำแนะนำสำหรับคนผมเสียอย่างหนักก็คือ ควรเติมสีแค่ไม่เกิน 1-2 ครั้ง จากนั้นก็ให้เวลาผมได้ฟื้นฟูตัวเองบ้าง อย่างน้อยที่สุดคือ 1 เดือนที่ห้ามทำเคมีอะไรเลย ถ้าเป็นไปได้ก็พักให้นานกว่านั้นเท่าที่จะทนไหว เพื่อให้เวลาผมกลับมามีชีวิตชีวาและสุขภาพดีพอให้ทำร้ายอีกครั้ง T_T #ฮือซาดิสม์อะ แค่นั้นก็พอค่ะ
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก futurederm