ไบโอติน (Biotin) วิตามินลดผมร่วง ใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือผมเปราะขาดง่ายไม่ควรพลาด! แต่ไบโอตินช่วยลดผมร่วงได้จริงไหม เราจะหาไบโอตินได้จากที่ไหน หรือควรกินไบโอตินอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด วันนี้ Ladyissue นำความรู้เรื่องไบโอตินมาฝากหนุ่มๆ สาวๆ ที่มีปัญหาผมร่วงหนักแล้วค่ะ
ไบโอติน (Biotin) หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า วิตามิน B7 (Vitamin B7) และวิตามิน H (Vitamin H) เป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเคราตินในการบำรุงสุขภาพเส้นผม ผิวหนัง และเล็บให้แข็งแรง โดยปกตินั้นผู้ใหญ่ควรได้รับไบโอตินประมาณ 30 ไมโครกรัม/วัน ซึ่งหากว่าเราขาดไบโอตินไป อาจส่งผลให้ผมร่วงมากผิดปกติจนเสี่ยงผมบางหัวล้าน ผิวหนังแห้งอักเสบง่าย รวมถึงเล็บเปราะหักง่าย
ฉะนั้นใครที่มีปัญหาผมร่วงมาก ผมบาง หรือผมเปราะขาดง่าย สามารถเพิ่มไบโอตินได้ง่ายๆ ด้วยการกินอาหารที่มีไบโอตินสูงอย่างไข่แดง เครื่องในสัตว์ ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ ถั่วเหลือง กล้วย ข้าวโพด แอปเปิล กะหล่ำปลี นม เนย และโยเกิร์ต เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไบโอตินอาจเสื่อมคุณค่าได้หลังผ่านความร้อนนะคะ จึงควรเลือกอาหารที่ผ่านความร้อนน้อยที่สุดเพื่อคงคุณค่าของไบโอตินไว้ให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกกินอาหารเสริมไบโอตินเพื่อช่วยบำรุงศีรษะและเส้นผมแข็งแรง ลดผมร่วง ผมบางได้อีกทางค่ะ โดยจะมีอาหารไบโอตินลดผมร่วงตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง ติดตามได้ข้างล่างนี้เลยค่า
1. Blackmores Biotin H+
เริ่มที่ไบโอตินลดผมร่วงจาก Blackmores กันค่ะ ตัวนี้มีไบโอติน 150 มคก. ร่วมกับชาขาว เมล็ดมิลเลท สาหร่ายเคลป์ หญ้าหางม้า ฮอสเทล สังกะสี วิตามินอี วิตามินซี และซิลิเนียม ซึ่งมีสรรพคุณช่วยคงสภาพปกติของเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมเสริมการบำรุงรากผมแข็งแรงให้ผมร่วงน้อยลง รวมถึงต่อต้านอนุมูลอิสระจากแสงแดดที่เป็นสาเหตุของปัญหาผมหงอกขาวนะคะ เหมาะสำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วงและผมหงอกก่อนวัยค่ะ
ราคา : 785 บาท (60 เม็ด)
วิธีกิน : วันละ 1 เม็ดพร้อมอาหาร
ช่องทางสั่งซื้อ : Watsons, Shopee, Lazada
2. AloEx Dietary Supplement
มาต่อที่ AloEx Dietary Supplement ไบโอตินลดผมร่วงจากแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมยอดฮิต ตัวนี้เค้ามีไบโอติน 120 มคก. กินแค่เม็ดเดียวก็ได้รับไบโอตินเพียงพอแล้วค่ะ และยังมีสารอาหารบำรุงผมแข็งแรงอย่างแอสตาแซนธิน ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินซี วิตามิน B3 สารสกัดหอยนางรม และอื่นๆ รวมกว่า 15 ชนิด เรียกได้ว่าจบครบในหนึ่งเดียว เหมาะกับใครที่อยากบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมให้ง่ายสุด ช่วยลดผมร่วง ผมบาง เร่งผมงอกใหม่ พร้อมลดอาการคัน รังแค และสิวบนหนังศีรษะ
ราคา : 680 บาท (30 แคปซูล)
วิธีกิน : วันละ 1-2 แคปซูลหลังมื้ออาหาร 30 นาที (แบ่งกินเช้า-เย็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงตลอดวัน)
ช่องทางสั่งซื้อ : LINE: @aloex, Watsons, Evenandboy, Shopee, Lazada
3. Dii Hair Solution
ถัดมาเป็นไบโอตินจากแบรนด์ Dii ค่ะ ถือเป็นอาหารเสริมอีกตัวที่มีไบโอตินจัดเต็ม 150 มคก. มีผงฟักทอง กรดอะมิโนรวม หญ้าหางม้า วิตามินและแร่ธาตุรวมอื่นๆ อีกหลายชนิด ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดผมร่วงจากฮอร์โมน DHT ไปพร้อมๆ กับช่วยเสริมโครงสร้างเส้นใยของเส้นผม ลดผมเปราะขาดง่าย และเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมให้แข็งแรง ดูเงางามค่ะ เหมาะกับใครที่มีปัญหาผมเปราะขาดง่าย ผมเสียอย่างรุนแรงหลังการทำสี ใช้ความร้อน หรือใช้สารเคมีนะคะ
ราคา : 1,290 บาท (30 แคปซูล)
วิธีกิน : วันละ 2 แคปซูลก่อนนอน (กินต่อเนื่องได้ 6 เดือนและควรหยุดกิน 1 เดือน)
ช่องทางสั่งซื้อ : Shopee, Lazada
4. Mega We Care REGENEZ
ต่อกันที่ Mega We Care แบรนด์อาหารเสริมขึ้นชื่อนะคะ สำหรับตัวไบโอตินของแบรนด์นี้มีไบโอตินถึง 1,000 มคก. ซึ่งนับว่าเยอะที่สุดในบรรดาอาหารเสริมไบโอตินทั้งหมดค่ะ จึงสามารถช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บได้เป็นอย่างดีค่ะ นอกจากนี้เค้ายังมีธาตุเหล็ก สังกะสี ซิลิกา วิตามินซี และวิตามินบีรวม ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมจากภายใน พร้อมบำรุงเล็บแข็งแรง เหมาะสำหรับใครที่ผมร่วงมาก ผมอ่อนแอขาดง่าย หรือมีปัญหาเล็บเปราะหักง่ายนะคะ
ราคา : 350 บาท (30 แคปซูล)
วิธีกิน : ครั้งละ 1 แคปซูล โดยกินวันละ 1-2 ครั้ง หรือกินตามที่แพทย์สั่ง
ช่องทางสั่งซื้อ : Watsons, Lazada
5. Nectapharma Nectahair Pelatin
ไบโอตินที่น่าสนใจตัวต่อไปได้แก่ Nectapharma ค่ะ แม้จะมีไบโอติน 150 มคก. แต่ตัวนี้จะเน้นไปที่สารสกัดจากถั่วเหลืองเป็นหลักค่ะ เพราะว่าช่วยลดผมร่วงจากฮอร์โมน DHT ได้ และมีสารสกัดจากพริก หญ้าหางม้า ข้าวฟ่าง คอลลาเจนจากปลาทะเล ธาตุเหล็ก สังกะสี กรดอะมิโน และวิตามินที่มีสรรพคุณลดผมร่วงจากสาเหตุอื่นๆ พร้อมเสริมความแข็งแรงให้ผมงอกใหม่สุขภาพดี อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมไบโอตินนี้ควรกินต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป เพื่อผลลัพธ์ลดผมร่วงที่ชัดเจนนะคะ
ราคา : 1,490 บาท (30 เม็ด)
วิธีกิน : วันละ 2 เม็ดก่อนนอน
ช่องทางสั่งซื้อ : Shopee, Lazada
6. PHYTO Phytophanere Dietary Supplement Hair & Nails
ไปต่อกันที่ไบโอตินจากแบรนด์ฝรั่งเศสอย่าง PHYTO ค่ะ ตัวนี้จะเป็นอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงทั้งเส้นผมและเล็บ มีไบโอติน 150 มคก. ช่วยลดผมร่วงและการเปราะหักของเล็บ และมีวิตามินบี 6 วิตามินซี วิตามินอี และสังกะสี ช่วยกระตุ้นผมงอกใหม่เงางามสุขภาพดี พร้อมทั้งเสริมสร้างเคราตินให้ผมแข็งแรงขาดยากขึ้น เล็บไม่เปราะหักง่ายนะคะ ทั้งนี้ อาหารเสริมตัวนี้ควรกินต่อเนื่องอย่างน้อย 4 เดือนขึ้นไป จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเรื่องเส้นผมและเล็บที่แข็งแรงค่ะ
ราคา : 1,050 บาท (120 แคปซูล)
วิธีกิน : วันละ 2 แคปซูลตอนเช้า
ช่องทางสั่งซื้อ : Shopee, Lazada, Central Online
7. VISTRA Regow
ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งไบโอตินจากแบรนด์ดัง VISTRA นะคะ ตัวนี้มีไบโอติน 150 มคก. ค่ะ และมีสารอาหารบำรุงผมอื่นๆ รวมกว่า 10 ชนิด เช่น สารสกัดเมล็ดแฟลกซ์ สนหางม้า แอล-เมไธโอนีน ซิลีเนียม และวิตามินเอ เป็นต้น ช่วยลดผมร่วง บำรุงหนังศีรษะและเส้นผมแข็งแรงจากภายใน โดยไบโอตินตัวนี้จะเหมาะกับใครที่มีปัญหาผมแห้ง หนังศีรษะลอก เส้นผมสีอ่อนหรือผมหงอกก่อนวัยนะคะ เพราะสารสกัดเมล็ดแฟลกซ์จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะไม่แห้งลอก และแอล-เมไธโอนีนก็ช่วยป้องกันการทำลายเม็ดสีของสีผม ให้เส้นผมดูดกดำ ป้องกันผมหงอกขาวนะคะ
ราคา : 460 บาท (30 แคปซูล)
วิธีกิน : วันละ 1 แคปซูลพร้อมอาหาร
ช่องทางสั่งซื้อ : Shopee, Lazada, Konvy
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 7 อาหารเสริมไบโอตินลดผมร่วงที่ Ladyissue นำมาฝากกันในวันนี้ แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นแตกต่างกันไปเลยใช่ไหมคะ^^ ใครลังเลใจเลือกไม่ถูก ขอแนะนำว่าให้ดูที่ปริมาณไบโอตินเป็นหลักค่ะ หรือในกรณีที่มีปริมาณไบโอตินเท่ากัน หรือมีไบโอตินใกล้เคียงกัน ก็ให้ดูสารอาหารบำรุงผมอื่นๆ ร่วมด้วยค่ะ เพราะนอกจากจะคุ้มเงินแล้ว ยังจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการบำรุงผมแข็งแรง ลดผมร่วงได้ดียิ่งขึ้น
ประกอบกับการกินไบโอตินมากเกินความจำเป็นก็ส่งผลข้างเคียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ฉะนั้นเราจึงควรกินไบโอตินแต่พอเหมาะ เสริมด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมควบคู่กันไป โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผมร่วงเพราะขาดสารอาหาร กินแค่ไบโอตินอย่างเดียวไม่ได้นะคะ ต้องกินวิตามินอื่นด้วยค่า
LADYISSUE คือ เว็บผู้หญิงอันดับ 1 อัพเดทกระแสฮิต ทาง LINE ฟรี !
Add friend ที่ ID : @ladyissue
265 Comments
I genuinely treasure your piece of work, Great post.
Thanks for your posting on this website. From my personal experience, often times softening upwards a photograph may possibly provide the photo shooter with a dose of an artsy flare. More often than not however, the soft blur isn’t exactly what you had as the primary goal and can quite often spoil a normally good photo, especially if you intend on enlarging the item.
Some truly good content on this website , regards for contribution.
Some truly nice and utilitarian information on this internet site, likewise I think the style has got superb features.
I found your blog website on google and test a few of your early posts. Continue to keep up the superb operate. I just extra up your RSS feed to my MSN News Reader. Searching for forward to reading extra from you in a while!…