ชวนส่อง #ของมันต้องมี สำหรับสาววัย 30 อัพ ที่ Beautrium กันค่ะ เดินเพลินๆ ก็ได้ของลงตะกร้า 10 ชิ้น ไปดูแลผิววัยกำลังเปลี่ยนผ่านให้โตไปไม่เหี่ยวกันค่ะ! คราวนี้ขอเรียงลำดับตาม Skincare Routine เลยนะคะ ว่าตัวไหนใช้ก่อนใช้หลังแล้วมันปังยังไง!
LA ROCHE-POSAY Effaclar Micro-Peeling Purify Gel 890 บาท (200 ml.)
มาเริ่มที่ Step แรกของการบำรุงผิว ซึ่งก็คือขั้นตอนการล้างหน้านั่นเอง แม้ Effaclar Micro-Peeling Purify Gel จะเป็นเจลล้างหน้าที่โปรโมตตัวเองว่าเหมาะสำหรับผิวเป็นสิว แต่ความจริงแล้วนางมีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวอ่อนๆ ช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วค่อยๆ หลุดออก ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาสิวได้แล้ว ยังช่วยให้ผิวกระจ่างใส สะอาดหมดจด เหมาะสำหรับผิววัย 30 อัพ ที่กระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติเริ่มช้าลง ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียนด้วยค่ะ
KLAVUU White Pearlsation Revitalizing Pearl Treatment Toner 1,290 บาท (140 ml.)
ล้างหน้าเสร็จเราก็มาใช้โทนเนอร์เช็ดผิวกันต่อค่ะ สำหรับบางคนการใช้โทนเนอร์นั้นทำหน้าที่แทนการทำความสะอาดผิวขั้นสุดท้าย แต่ถ้าใครล้างหน้าได้ปั๊วะปังอยู่แล้วจนรู้สึกว่าไม่ต้องใช้โทนเนอร์ อันนี้ก็อยากให้คิดใหม่นิดนึงนะคะ เพราะโทนเนอร์เป็นขั้นตอนการเติมน้ำให้ผิวหลังจากที่ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื้นไปจากการล้างหน้า (ไม่มากก็น้อย) ที่สำคัญยังช่วยให้ครีมแพงๆ ที่ใช้ในขั้นตอนหลังจากการใช้โทนเนอร์ซึมสู่ชั้นผิวได้ดีขึ้นด้วยค่ะ โดยตัว KLAVUU นอกจากจะช่วยเติมน้ำให้ผิว เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงขั้นต่อไปแล้ว ยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส คืนชีวิตชีวาให้ผิววิ้งไปอีกระดับด้วยค่า
BE.U Essence Water Rejuvenating by Natural Extracts 1,250 บาท (100 ml.)
โทนเนอร์เสร็จก็ต่อด้วยน้ำตบเลยค่ะ ตัวนี้เป็นน้ำตบเห็ดจากฝรั่งเศส เคลมว่าตัวเองช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลงก็จริง แต่นางปังกว่านั้นมาก เพราะการที่รูขุมขนเราดูเล็กลงได้นั้นเป็นเพราะผิวเรากระชับขึ้น รูขุมขนเลยดูเล็กลงไปด้วย นอกจากนี้เค้ายังใส่ตัว Probiotic Yeast Extract เป็น Active Ingredient ที่ช่วยการสื่อสารระหว่างเซลล์ ทำให้ผิวมีชีวิตชีวา ชะลอความเหี่ยวได้ด้วย ซึ่งตัวที่นางใช้เป็นสารสกัดยีสต์ตัวเดียวกับของน้ำตบญี่ปุ่นแบรนด์ดังด้วยค่า แถมยังมีส่วนผสมที่เป็น Antioxidants เยอะมากๆ มาช่วยดูแลผิววัย 30 ที่กังวลเรื่องริ้วรอยจะถามหา ส่วนเนื้อสัมผัสก็เป็นน้ำใสๆ ซึมลงผิวง่ายมากค่ะ
OLAY Regenerist Retinol24 Night Eye Cream 1,199 บาท (15 ml.)
ก่อนจะลงเซรั่มหรือครีมที่มีเนื้อหนัก แอดมินชอบทาอายครีมก่อนค่ะ โดยอายครีมส่วนใหญ่ขึ้นชื่อว่าเป็นแค่มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางใส่กระปุกจิ๋วๆ ในราคาที่แพงเท่านั้น แต่ตัว Olay เค้ามีเรตินอลที่สาวๆ ทุกคนรู้ดีว่าช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอยได้มาด้วย ซึ่งตัวนี้ก็ออกแบบมาให้เหมาะกับการทารอบดวงตา (คำเตือน! อย่าเอาเรตินอลที่ไม่ได้ผลิตมาเพื่อทารอบดวงตามาใช้แทนอายครีมเลยนะคะ เพราะระคายเคืองดวงตาแน่ๆ ไม่คุ้มกันหรอกค่ะ!) ซึมง่าย อ่อนโยน จนสามารถใช้ได้ทุกคืนเลยค่ะ
MINISTRY OF BEAUTY The Solution For 30s 1,190 บาท (30 ml.)
เซรั่มที่ออกแบบมาเพื่อดูแลปัญหาวัย 30 โดยเฉพาะ เน้นเรื่องการเติมน้ำให้ผิวและเพิ่มความกระจ่างใสด้วยสารสกัดมากมายตั้งแต่ Alpha Arbutin (อัพผิวกระจ่างใส ลดหมองคล้ำ), Panthenol (เติมความชุ่มชื้นให้ผิว), Licorice Root Extract (เป็น Antioxidant ชะลอผิวแก่) และ Niacinamide (เติมน้ำให้ผิว ปรับผิวให้สีสม่ำเสมอ อัพผิวแข็งแรง) ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดที่ว่ามาก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชะลอการเกิดริ้วรอย พร้อมเสริมปราการผิวให้แข็งแรง เรียกได้ว่าดูแลความต้องการพื้นฐานของปัญหาผิววัย 30 อัพได้ครบเลยค่ะ
LANEIGE Perfect Renew Youth Regenerator 1,650 บาท (25 ml.)
เซรั่มอีกตัวที่ตอบโจทย์ผิววัย 30 อย่างรอบด้าน นางเน้นการชะลอ 5 สัญญาณผิวแห่งวัย ตั้งแต่ริ้วรอย ความยืดหยุ่น ความกระจ่างใส ความชุ่มชื้น และความหยาบกร้าน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มดูอิ่มเต็มด้วยเทคโนโลยี Glyco-Miracle โดยมีส่วนประกอบที่เป็นเรือธงอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ ราก Butterfly Ginger มาสร้างเซลล์ผิวใหม่และกระตุ้นพลังงานผิว เปปไทด์บริสุทธิ์ช่วยสร้างโปรตีนโปรคอลลาเจนเพื่อต่อต้านริ้วรอย พร้อมเพิ่มความกระชับของผิว และ Antioxidant จากสารสกัดประเภทเบอร์รี่ ที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าวิตามิน C ถึง 4 เท่า
L’ORÉAL PARIS Revitalift Triple Action Renewing Anti-Aging Serum 999 บาท (30 ml.)
ตัวนี้เป็นเซรั่มที่เนื้อค่อนข้างเข้มข้น ทาเสร็จแล้วรู้สึกเหมือนผิวโดนเคลือบหน่อยๆ ซึ่งช่วยเรื่องการปกป้องดูแลการสูญเสียน้ำในชั้นผิวที่เป็นหน้าที่ของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้ด้วยค่ะ โดยนางมีคุณสมบัติด้านการดูแลผิว 3 ด้านหลักๆ ได้แก่ ลดเลือนริ้วรอย ด้วย Adenosine และ LHA เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว 3% Pro-Xylane แถมช่วยเผยผิวใหม่โดยการผลัดเซลล์ผิวและปรับสภาพผิวให้ดูมีสุขภาพดีได้ไปพร้อมกันค่ะ
BANOBAGI Damage Skin Program Mask 150 บาท (1 แผ่น)
สำหรับ Sheet Mask ที่แม้ไม่ได้ต้องใช้ทุกวัน แต่ใช้ทั้งทีก็อยากได้จึ้งๆ หน่อย ก็เลยเลือก BANOBAGI สูตร Damage Skin Program Mask เลยค่า พรีเมียมสุดๆ ด้วยสารสกัดแพงๆ แบบคาเวียร์เกาหลี พร้อมสารสกัดสิทธิบัตรเฉพาะแบรนด์อย่างคาร็อบ ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่ขาดการดูแล ทั้งปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวขาดน้ำ ผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด ผิวขาดความยืดหยุ่นก็ช่วยได้รอบด้านแบบเดียวกับเข้าคลินิกทำทรีตเมนต์ไปเลยค่า
ANESSA Perfect UV Sunscreen Mild Milk N SPF50+ PA++++ 950 บาท (60 ml.)
อายุ 30 แล้วถ้ายังไม่ยอมทาครีมกันแดดอีกล่ะก็ จะครีมแพงแค่ไหนก็ช่วยชะลอริ้วรอยไม่ไหวนะคะสาว! เพราะนอกจากจะเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังแล้ว สารอนุมูลอิสระที่มากับรังสี UV ยังเป็นตัวการหลักทำให้ผิวแก่ก่อนวัยด้วยค่ะ แต่เนื่องจากประเทศไทยอากาศร้อนชื้น และครีมกันแดดหลายตัวก็เหมือนสร้างมาเพื่อให้ชาวไทยหน้าเมือก เราเลยต้องเลือกครีมกันแดดเนื้อดีๆ ที่เหมาะกับผิวชาวเขตร้อนแบบเรากันหน่อย ANESSA สูตรนี้เลยตอบโจทย์คนไทยมากๆ ค่ะ นอกจากจะเป็นเนื้อน้ำนมบางเบา ไม่ปล่อยผิวให้เหนอะแม้ทาสกินแคร์รองพื้นมาหลายตัวแล้ว แต่ก็ยังมี SPF สูงถึง 50+ และมี PA++++ ซึ่งช่วยป้องกันผิวจากรังสี UVA ได้สูงสุดด้วยค่ะ
ALLIE Color Tuning UV 820 บาท (40 g.)
เจลกันแดดอีกตัวที่เป็นเมคอัพเบสได้ในตัวเดียว เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของครีมกันแดดที่ทาไปก่อนหน้าขั้นตอนนี้ค่ะ พร้อมยังช่วยปรับโทนสีผิวให้สว่าง อำพรางรอยดำ รอยแดง และร่องรอยความหมองคล้ำของผิว พร้อมลงแป้งแต่งหน้าในขั้นตอนต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวลความเยิ้มหรือหนักหน้าค่ะ ที่สำคัญนางมีประสิทธิภาพกันแดดได้ถึง SPF50+ พร้อม PA++++ ด้วยค่า
LADYISSUE คือ เว็บผู้หญิงอันดับ 1 อัพเดทกระแสฮิต ทาง LINE ฟรี !
Add friend ที่ ID : @ladyissue