ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า สิวฮอร์โมน แต่อาจจะสงสัยว่า สิวฮอร์โมนนั้นแตกต่างจากสิวปกติอย่างไร สิวฮอร์โมน เป็นสิวที่เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน ความเครียด หรือเรื่องของประจำเดือนมาไม่ปกติ มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าช่วงล่างตั้งแต่แก้มลงไปถึงริมฝีปาก ซึ่งแตกต่างจากสิวปกติที่มักจะเกิดจากพฤติกรรมส่วนบุคคล หรือผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ และมักกระจายอยู่ทั่วไปหน้าหรือบริเวณทีโซน
ส่วนการรักษาสิวฮอร์โมนนั้นมีวิธีการคล้ายๆ กับสิวปกติ อาจจะเพิ่มเติมในเรื่องของการปรับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายผู้หญิง โดยมาจากรังไข่และกระจายอยู่ในเซลล์ทั่วร่างกาย ทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพด้านความงาม เช่น ผมเงางาม ผิวพรรณชุ่มชื่น ลดไขมันไม่ดี และอื่นๆ ส่วนการรักษาสิวฮอร์โมนโดยการปรับเอสโตรเจน ทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
1. แต้มยาละลายหัวสิว แล้วไปฉีดหรือกดออก
สิวฮอร์โมนมักจะเป็นสิวที่ใหญ่ยักษ์จนทำให้เราไม่มั่นใจ แถมยังเจ็บปวดด้วย ดังนั้นจึงควรทายาละลายหัวสิวทิ้งไว้ก่อนล้างหน้าวันละ 5-10 นาที สิวจะค่อยๆ อ่อนตัวลงทำให้หัวสิวหลุดง่ายขึ้น จากนั้นไปพบแพทย์เพื่อฉีดให้สิวยุบ หรือจะกดออกเองก็ได้ แต่ต้องระวังจะกดไม่หมด แล้วทำให้อักเสบได้
2. ทานยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมนเอสโตรเจน
ซึ่งปัจจุบันผลิตมาหลายแบรนด์ หลายรูปแบบโดยมากจะสกัดมาจากพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการปรับฮอร์โมนที่ผิดปกติ พ่วงมาด้วยสรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
3. เลือกกินอาหาร
อาหารที่ช่วยผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้เป็นอย่างดี คือ ถั่วชนิดต่างๆ น้ำมะพร้าว ลูกพรุน องุ่น และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
4. เลิกสูบบุหรี่
นิโคตินในบุหรี่ มีผลทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลง นอกจากนี้ยังทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ อันเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมน
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่เพียงแต่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนเท่านั้น แต่ยังมีผลช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และลดความเครียดได้เป็นอย่างดี สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มักส่งผลในทางที่ดีกับสุขภาพ และเป็นการแก้ปัญหาสิวฮอร์โมนโดยตรง
ขอบคุณ verywellhealth, vox, spukkato
LADYISSUE คือ เว็บผู้หญิงอันดับ 1 อัพเดทกระแสฮิต ทาง LINE ฟรี !
Add friend ที่ ID : @ladyissue