วันนี้มีเรื่องราวที่เหมาะกับคนอยากผิวสวยสุขภาพดีมาฝากกันค่า จะเป็นอาหารเสริมคอลลาเจนทานง่ายแบบชงดื่ม โดยคอลลาเจนจะช่วยเรื่องของผิวดูชุ่มชื้น กระชับ ลดริ้วรอยก่อนวัยอันควรและยังช่วยเรื่องของกระดูก ข้อต่อ เส้นผมและเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายให้มีความแข็งแรงกัน เริ่มดูแลกันเร็ว ก็ให้ผลเร็วนะคะ แต่จะมีแบรนด์ไหน ราคาเท่าไหร่กันบ้าง ตามมาดูกันค่า มันเริ่ดน้า
Chame Hydrolyzed Collagen Tripeptide Plus
แบรนด์แรก Chame Hydrolyzed Collagen Tripeptide Plus เป็นคอลลาเจนจากปลาหิมะประเทศนอร์เวย์ โดยในหนึ่งห่อประกอบด้วยคอลลาเจน 10,000 มก. และสารสกัดจากธรรมชาติ 24 ชนิด ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ช่วยให้เส้นผม เล็บ และข้อต่อกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วยค่า ขนาด 15 g. ราคา 49 บาท
Colly Plus Lycopene 6,500 mg.
อีกหนึ่งแบรนด์ยอดนิยม Colly Plus Lycopene 6,500 mg. ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนถึง 6,500 mg. และยังมีไลโคปีนจากมะเขือเทศ จะช่วยกระชับรูขุมขน เพิ่มความเรียบเนียนบนผิวหน้า ลดริ้วรอย หน้าแห้งและผิวลอก ให้ผิวมีความชุ่มชื้นอีกด้วยค่า สูตรนี้สามารถชงดื่มกับน้ำเปล่าหรือนมเปรี้ยวก็ได้ อยากเห็นผลไว ก็ดื่มตอนเช้า 1 ซองกับก่อนนอน 1 ซองค่ะ ขนาด 30 g. ราคา 99 บาท
Blink Shake Shake Collagen Peptide 2,000 mg.
แบรนด์คอลลาเจนชื่อดัง Blink Shake Shake Collagen Peptide 2,000 mg. มีแบบขนาดพกพาสะดวก ทานง่าย ไม่คาว และไม่ใส่น้ำตาล กลิ่นสตอเบอร์รี่สามารถเทลงน้ำเปล่าเขย่าอีกนิด ก็พร้อมดื่มแล้วค่า สูตรนี้จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระให้ผิวดูกระชับ ลดริ้วรอยได้นะคะ ขนาด 2 g. ซองละ 15 บาทค่า
Donutt Collagen Tripeptide HACP
คอลลาเจน Donutt Collagen Tripeptide HACP เป็นคอลลาเจนโมเลกุลเล็กระดับไตรเปป์ไทน์ที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก ที่เมื่อทาน 3-4 สัปดาห์ จะช่วยให้ผิวเนียนขึ้น นุ่มและกระชับขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยให้โครงสร้างกระดูกแข็งแรง ลดอาการปวดข้อได้อีกด้วยค่า ขนาด 5 g. ราคา 19 บาท
Real Elixir Pure Collagen 4,000 Mg.
สำหรับ Real Elixir Pure Collagen 4,000 Mg. จะเป็นเพียวคอลลาเจนที่เต็มไปด้วยกรดอะมิโนสูงกว่าปลาทะเลทั่วไป โดยเพียวคอลลาเจนได้จากปลาที่เลี้ยงในทะเลสาบทางอเมริกาใต้ ช่วยให้ผิวสุขภาพแข็งแรง เรียบเนียน ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และยังช่วยบำรุงข้อต่อ ป้องกันข้อเสื่อม คอลลาเจนดูซึมเร็ว ทานง่ายอีกด้วยค่า ขนาด 4 กรัม ซองละ 20 บาทค่ะ
C-up Tomato Collagen Mix Berry Plus
อีกหนึ่งแบรนด์ C-up Tomato Collagen Mix Berry Plus เป็นคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน ไลโคปีน และโคเอนไซม์ คิวเท็น ที่จะช่วยบำรุงและลดริ้วรอยบนผิว ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น กระชับรูขุมขน ลดการเกิดสิว รสมิกซ์เบอร์รี่ทานง่าย และยังช่วยเรื่องระบบการขับถ่ายได้อีกด้วยค่ะ ขนาด 8 g. ราคา 29 บาท
Jejuvita Colla-La Plus
สุดท้ายกับแบรนด์ Jejuvita Colla-La Plus เป็นคอลลาเจนไตรเปปไทด์ ที่ได้จากจมูกปลาแซลมอน สารสกัดจากองุ่น สารสกัดจากมะเขือเทศ และผลอะเซโรล่าเชอร์รี่จะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวนุ่มชื้น แบรนด์นี้จะเป็นรสองุ่นเฮียวโค แน่นอนว่าทานง่าย สามารถผสมกับน้ำเย็น ทานก่อนนอนหรือตอนก่อนกินข้าวก็ได้ค่ะ ขนาด 15 g. ราคา 39 บาท
ใครที่กำลังหาอาหารเสริมเพื่อผิวสวยๆ ลองเป็นคอลลาเจนแบบชงดื่มก็ได้ค่า ทานง่าย บางแบรนด์ก็ต้องผสมกับน้ำผลไม้หรือดื่มได้เลย ก็ต้องเลือกตามที่ชอบกันนะคะ ราคาเบาๆ แถมยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ 7-11, Watsons, Nine Beauty และห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ได้เลยค่า
125 Comments
Thanks for one’s marvelous posting! I definitely enjoyed reading it, you can be a great author.I will remember to bookmark your blog and may come back down the road. I want to encourage you to ultimately continue your great work, have a nice day!
I’m usually to running a blog and i actually respect your content. The article has really peaks my interest. I’m going to bookmark your site and preserve checking for brand new information.
I have learned some new things from a blog post. Also a thing to I have noticed is that typically, FSBO sellers will certainly reject anyone. Remember, they will prefer to not use your expert services. But if an individual maintain a reliable, professional partnership, offering guide and staying in contact for about four to five weeks, you will usually manage to win a conversation. From there, a house listing follows. Thank you
I have noticed that over the course of making a relationship with real estate proprietors, you’ll be able to get them to understand that, in each and every real estate transaction, a percentage is paid. In the end, FSBO sellers do not “save” the percentage. Rather, they try to win the commission by simply doing a good agent’s task. In the process, they devote their money along with time to conduct, as best they’re able to, the jobs of an real estate agent. Those obligations include revealing the home by means of marketing, introducing the home to all buyers, making a sense of buyer emergency in order to induce an offer, scheduling home inspections, dealing with qualification assessments with the loan provider, supervising repairs, and facilitating the closing.
Hello.This article was really motivating, especially since I was investigating for thoughts on this topic last Friday.