กระแสแรงไม่ตกจริงๆ สำหรับแป้งดินน้ำมันที่เชื่อว่าสาวๆคงเคยได้ยินเสียงร่ำลือกันมาบ้าง วันนี้เอิงเอยมารีวิวแป้งดินน้ำแบรนด์ Sola ที่เชื่อเอิงเถอะว่ามันเริศที่สุดแล้วในบรรดาแป้งดินน้ำมันทั้งหลาย เริศกว่ายังไง? มาดูกันเลย!
Sola Bounce Shiny Pact SPF50 PA+++ กล่องม่วง อันที่เอิงได้มาเป็นแบบรีฟิลนะคะ ราคา ฿720 มาพร้อมกับพัฟหนานุ่มไม่กะโหลกกะลาเหมือนพัฟที่แถมมาทั่วๆไป ตัวแป้งมาในรูปแบบของแพคเกจจิ้งแบบพลาสติก เบา พกง่าย อาจจะยุ่งนิดนึงเพราะไม่มีช่องเก็บพัฟเหมือนแป้งตลับทั่วๆไป ระวังหล่นหายกันด้วยนะคะ
แล้วอะไรที่ทำให้แป้งดินน้ำมันแรงไม่ตกกระแสไปสักที นอกจากเนื้อแป้งที่แปลกใหม่หน้าลองแล้ว?
“เพราะว่าแป้งดินน้ำมัน เป็นนวัตกรรมใหม่ของการเคลียร์ผิวหน้า ที่รองพื้นไม่ต้อง แป้งตัวนี้ตัวเดียวจบเลย!”
-ปกปิดเทียบเท่าการใช้รองพื้น
-ไม่หนาเหมือนการใช้รองพื้น คอนซิลเลอร์ และแป้งหลายๆชั้น
-เนื้อแป้งดูเป็นผิวมากกว่าแป้งผสมรองพื้น 2 way ทั่วๆไป
-ปรับผิวให้ดูเนียนมากกว่า โดยไม่ดูโป๊ะ!
ทำไมถึงเรียกว่าแป้งดินน้ำมัน?
ก็เพราะว่าเนื้อเขาเหมือนดินน้ำมันเลยค่ะ เนื้อแป้งยืดหยุ่นเหมือนจับมาปั้นได้
ข้อดีของแป้งดินน้ำมันคือ “ตกยังไงก็ไม่แตกค่ะ” ลองกดให้ดูเนื้อแป้งจะบุมลงไปแบบนี้ เหมือนดินน้ำมันเลย
เหมาะมากสำหรับสาวๆ มือหนักทำของตกบ่อยๆเหมือนเอิง
ลองเนื้อแป้งให้ดูกันชัดๆ ถามว่าทำไมต้องแบรนด์ Sola? เพราะสีของแป้งมันความเหลืองเหมาะกับผิวสาวไทยมากกว่าค่ะ ถ้าเป็นต้นฉบับแบรนด์เกาหลีอย่าที่เรารู้ๆกันดี ว่าแป้งเขาขาวมากไปแถมเป็นโทนชมพูไปซะอีก เอิงเคยลองใช้ ver.ของเกาลีแท้ๆแล้วจอดเลยค่ะ หน้าเทามาก! Sola เขารู้จุดเสียของนี้ดี เลยเอามาพัฒนาให้แป้งมีสีเข้ากับสาวไทยแบบเราๆกันมากขึ้น แต่คุณภาพคับแก้วเหมือนกันนะจ๊ะ
แป้งดินน้ำมัน Sola มีให้เลือกสองสีนะคะ คือเบอร์ 21 และ 23 ใครขาวมากก็เบอร์ 21 โล้ดด ส่วนใครผิวขาวเหลืองถึงสองสี มาที่เบอณ 23 เลยค่ะ มาปาดสี และให้ดูเนื้อแป้งกันชัดๆอีกที เนื้อแป้งค่อนข้างแน่นนะคะ ไม่ร่วงเป็นผงๆ เลอะเทอะ
มาลงเนื้อแป้งให้ดูกันชัดๆ ครึ่งๆหน้าไปเลย ผิวหน้าเอิงพอดีกับเบอร์ 23 เนื้อแป้งต้องใช้เวลาเกลี่ยนิดนึง แต่ finishing สวยมาก ได้ผิวแบบซาตินไม่ได้แมทไปซะเดียวปกปิกปานกลางพวกรอยจางๆ ปิดได้เกือบหมด แต่ถ้าใครเป็นสิวปูดๆ ยังต้องคอนซิลเลอร์ลงก่อนเบาๆชั้นนึงนะคะ รวมๆได้ผิวเหมือนลงรองพื้นแบบ medium coverage แล้วลงแป้งฝุ่นบางๆเลย แต่ใช้แค่ตัวนี้ตัวเดียวไม่ได้ใช้รองพื้นนะคะ ถือว่าปกปิดได้ดีเลยทีเดียวสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้ง สีก็พอดี๊พอดีกับหน้า ไม่เทาไม่ลอย โอเคเลย! โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเหมือนตัวเองลงรองพื้นแบบครีมที่ต้องใช้พัฟเกลี่ยเลย แต่มันแห้งเป็นแป้งไปเลยไม่ต้องลงแป้งต่อ และไม่หนักเหมือนลงรองพื้น อันนี้แหละที่เป็นนวัตกรรม!
ความรู้สึกหลังลองใช้: พอแป้งเซ็ตตัวแล้วดูเป็นผิวมากค่ะ หลังจากทดลองใช้แป้งตัวนี้ผ่านมาทั้งวัน ผิวโดยรวมดูฉ่ำขึ้นกว่าตอนทาแป้งเสร็จใหม่ๆพอสมควร สวยกำลังดี จมูกขึ้นมันพอสมควรเป็นปกติ ทิชชู่ซับเบาๆก็สวยเหมือนเดิม ส่วนอื่นๆของใบหน้าดูฉ่ำวาวเกาหลีแต่ไม่ใช่ความมันนะ สรุปว่าแป้งตัวนี้คุมความมันดีพอตัวเลย ตกบ่ายเอิงแอบมีคราบตามร่องจมูกและใต้ตาเล็กน้อย เอานิ้วเกลี่ยๆ หรือทัชอัพอีกทีก็ยังอยู่ต่อได้ถึงเย็น ถือว่าเป็นข้อดีของแป้งตัวนี้นะที่สามารถเติมและเกลี่ยใหม่ได้ระหว่างวันโดยที่ไม่ดูโบ๊ะแป้งหนักกว่าเดิม ที่ต้องยกนิ้วให้เลยคือสีไม่ดรอปหน้าผ่องยังไง ยังผ่องอยู่อย่างนั้น
ข้อแนะนำสำหรับการใช้แป้งตัวนี้: แนะนำให้ใช้พัฟที่ให้มาแตะแป้งแล้วกดแท็ปๆให้ทั่วใบหน้า ไม่ใช้การปาดนะคะ การปาดไม่ช่วยในการปกปิดแค่อย่างใด การกดแป้งจะได้การปกปิดมากกว่า และอยู่ทนกว่าด้วย ข้อแนะนำอีกข้อคือให้ปาดแป้งขึ้นมาทีเดียวแล้วกดย้ำๆบริเวณรอยสิว หรือส่วนที่ต้องการการปกปิดทีเดียวเลยนะคะ ไม่ต้องบิ้วแป้งหลายรอบคนที่เกลี่ยไม่เก่งอาจทำห้แป้งเป็นปื้ดๆได้ ปาดแป้งขึ้นมากดย้ำรอบเดียวก็ปิดไปได้เยอะแล้วค่ะ ใครอยากอัพความฉ่ำขึ้นไปอีกลงไฮไลท์เลยค่ะ แป้งตัวนี้อยู่กับไฮไลท์แล้วหน้าฉ่ำมากจริงๆ เหมือนเนื้อแป้งช่วยให้การสะท้อนแสงของไฮไลท์ดีขึ้นด้วย
ใครอยากแอ๊บผิวฉ่ำเป็นสาวเกาหลี แต่ไม่ถูกจริตกับความเหนอะของคูชั่นที่แต่ดูฉ่ำวาวมากไป มาลองแป้งดินน้ำมันนะคะ เอิงว่าน่าจะถูกใจสาวที่ไม่ชอบคูชั่นมากกว่า สรุป! ชอบค่ะ เป็นอีกตัวเลือกในวันที่ต้องการลุคผิวๆ เกาหลีๆ แอ๊บแต่งหน้าน้อย ถึงแม้แพ็คแกจจิ้งจะมาแบบรีฟิล แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะราคาถูกกว่า อิอิ สำหรับสาวคนไหนที่สนใจอยากลองแป้งดินน้ำมัน แนะนำ Sola นะคะ บอกแล้วว่าสีโทนเหลืองของเขาโอเค ไม่วอกไม่เทา ผ่องกว่าแน่นอน
ถ้าอ่านรีวิวนี้แล้วเริ่มอยากได้แป้งดินน้ำมันตัวนี้มาลอง สั่งไปที่เพจของ Sola หรือเว็บไซต์ได้เลยจ้า
Fanpage: www.facebook.com/solacosmetics
website: sobeauty.co.th
review by aueng.aye @ laduissue