Glass Skin หลบไป! เทรนด์สวยใหม่สาวเกาหลีต้อง “Cloudless Skin”
– พร้อม 5 เคล็ดลับสู่ ‘ผิวเด็ก’ จากบิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลี –
เทรนด์เกาหลีกลายเป็นหนึ่งในกระแสที่มีอิทธิพลกับวงการความงามทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์คุชชั่น การมาสก์หน้า หรือเทรนด์ฮิตของปีที่แล้วอย่าง ‘Glass Skin’ แต่ล่าสุด! เกาหลีมีเทรนด์ใหม่มาอีกแล้ว!! เทรนด์นี้เป็นกระแสในหมู่สาวเกาหลีตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และกำลังจะกลายเป็นเทรนด์ความงามของสาวทั่วโลกในไม่ช้า ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเทรนด์ ‘Cloudless Skin’
Cloudless Skin คืออะไร?
ความหมายของ Cloudless Skin คือผิวที่กระจ่างใสเหมือนท้องฟ้ายามไร้เมฆหมอก อ้าว แล้วมันเป็นเทรนด์ใหม่ยังไง ? ก็เพราะ Cloudless Skin ของสาวเกาหลีไม่ใช่แค่ไร้ริ้วรอย แต่จะต้องเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และสุขภาพดีประหนึ่ง ‘ผิวเด็ก’ ที่ยังไม่เคยเผชิญกับมลภาวะต่างๆ Cloudless Skin จึงไม่ใช่แค่การบำรุง หรือแต่งหน้าให้ผิวดูชุ่มชื่น ฉ่ำน้ำอย่างเทรนด์ Glass Skin แต่การจะมีผิวแบบ Cloudless Skin ได้นั้นจะต้องมีการบำรุงดูแลผิวแบบจริงจัง และต่อเนื่อง
เทรนด์ Cloudless Skin ทำให้สาวๆเกาหลีหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้ากันมากขึ้น เราจึงได้เห็นทั้งบรรดาดารา-ไอดอล และบิวตี้บล็อกเกอร์ออกมาแบ่งปันวิธีการดูแลผิวหน้าของตัวเองกันมากมาย มาดูกันดีกว่าเขามีเคล็ดลับผิว อะไรกัน
1. กฎเหล็ก ต้องล้างหน้าให้สะอาดทุกวัน!
ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า ก็ควรล้างหน้าด้วย Cleansing ทุกวัน เพราะผิวหน้าของคุณต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆมาทั้งวัน นักวิเคราะห์ด้านความงามชื่อดังของเกาหลี ไดเรคเตอร์ ไพ (Director Pi, Pi Hyun Jeong) และเมคอัพอาร์ทติส ยูฮวาอี แนะนำตรงกันว่าการใช้ Cleansing Oil เป็นตัวเลือก Makeup Remover ที่ดีที่สุด เพราะสามารถล้างเครื่องสำอางออกได้อย่างหมดจด และอ่อนโยนกับผิวหน้าที่สุด เพียงใช้มือถูก็สามารถเอาสิวหัวดำ และเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวหน้าของเราได้ คนผิวมันอาจจะรู้สึกว่า Cleansing Oil ยิ่งทำให้หน้ามัน แต่ความจริงแล้ว Cleansing Oil ช่วยควบคุมความมันได้
Product Pick :: Cleansing Oil ที่ไดเรคเตอร์ ไพ และยูฮวาอี แนะนำตรงกันคือ RICE WATER BRIGHT LIGHT CLEANSING OIL จาก THE FACE SHOP เป็นผลิตภัณฑ์ oil-like ที่มีน้ำมันน้อยกว่า 50% ซึ่งทั้งสองแนะนำว่าดีกว่าผลิตภัณฑ์ Natural oil (น้ำมัน 60-70%) ที่ต้องล้างออกถึงสองครั้งซึ่งอาจทำร้ายผิวได้ โดยเฉพาะคนที่ผิวมันหรือผิวผสมจะเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่เป็น oil-like มากกว่า Cleansing Oil ตัวนี้ยังทำให้
รู้สึกสดชื่นหลังใช้ ทำความสะอาดได้หมดจด ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน ที่สำคัญคือทำให้ผิวชุ่มชื้น
2. ต้องใช้โทนเนอร์ เมื่อก่อนคนมักคิดว่าใช้โทนเนอร์เพื่อทำความสะอาด จึงคิดว่าไม่จำเป็นเพราะล้างหน้าให้สะอาดก็เพียงพอแล้ว จริงๆแล้วโทนเนอร์นอกจากจะใช้ทำความสะอาดอีกรอบหลังล้างหน้า ยังช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการทาครีมบำรุง และช่วยเติมน้ำให้ผิวด้วย ผิวของเราก็จะสามารถดูดซึมเซรัม และครีมได้ดียิ่งขึ้น
Product Pick :: ไดเรคเตอร์ ไพ แนะนำว่าควรเลือกโทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันซิลิโคน และ AHA BHA โทนเนอร์ที่ไดเรคเตอร์ ไพ แนะนำสำหรับคนผิวแพ้ง่าย คือ Mamonde Chamomile Pure Toner สำหรับคนที่ผิวมันไดเรคเตอร์ ไพ แนะนำ U:re Skin Egg Plant Master All-in-One Toner และ Thelab Blanc.D Hyaluronic Acid 5000 Toner สำหรับคนผิวแห้ง (Cr. https://youtu.be/C8wXn0Xdp1c)
3. ทากันแดดทุกวัน แม้ไม่ออกแดด แดดไม่เพียงทำให้สีผิวเข้มขึ้น ยังทำให้ผิวหน้าของคุณมีจุดด่างดำ และมีริ้วรอย ถึงแม้ว่าจะไม่ออกนอกบ้าน รังสี UV จากภายนอกก็สามารถส่องทะลุกระจกมาถึงผิวหน้าของคุณได้ จึงควรจริงจังกับการทาครีมกันแดด! ทาทุกวันก่อนออกแดด 30-60 นาที และทาซ้ำๆตลอดทั้งวัน ถ้าทำได้ทุก 2 ชั่วโมงยิ่งดี ยูนา (UNA) บิวตี้บล็อกเกอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิว แนะนำว่าเคล็ดลับของเธอคือการเลือกครีมกันแดดให้เข้ากับผิว สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายให้ใช้ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen ที่ไม่มีสารเคมี ส่วน Chemical Sunscreen ถึงแม้จะมีส่วนประกอบของสารเคมี แต่ไม่อันตราย และเหมาะกับการแต่งหน้ามากกว่า เพราะจะไม่เปลี่ยนสี ไม่ทำให้หน้าเทา Product Pick :: ยูนา (UNA) แนะนำครีมกันแดดที่เธอใช้แล้วชอบ Chemical Sunscreen : Dr+Lab: Medi
Sun Protect SPF50/PA+++ อีกชิ้นคือ Physical + Chemical Sunscreen : NatureRepublic California Aloe mild sunblock SP35/PA++ เพราะไม่ทำให้ผิวเทาเวลาแต่งหน้า และยังทำให้ผิวชุ่มชื้น เหมาะกับคนผิวมัน ส่วนคนที่ผิวแห้ง ด้านดร.คูยงซู (Koo Yongsu) ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้า แนะนำให้เลือกแบบที่เป็น มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง หรือแบบเจลจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้
4. สกินแคร์ไม่ใช่ทุกอย่าง!
ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้สกินแคร์จะช่วยผิวเราได้มาก แต่สกินแคร์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้ทุกอย่าง ร่างกายเรานี่เองที่มีกลไกในการรักษาตัวเองที่ดีเยี่ยมกว่าสกินแคร์เสียอีก ยูนา (UNA) บอกว่าเคล็ดลับการดูแลผิวของเธอคืออาหาร โดยเริ่มต้นจากการหยุดกินอาหารฟาดฟู้ด และอาหารที่ไม่มีประโยชน์อย่างกาแฟ ของทอด ช็อคโกแล็ต อาหารที่มีน้ำตาลสูง เน้นทานผักใบเขียวที่มีวิตามินซี จะช่วยบำรุงผิวได้
การพักผ่อนให้เพียงพอและถูกเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในเวลาที่เรานอนผิวจะฟื้นฟูตัวเอง จึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน และควรเข้านอนช่วง 4 ทุ่ม เพื่อให้หลับลึกในช่วงเที่ยงคืน ซึ่งโกรท ฮอร์โมนจะหลั่งมาซ่อมแซมผิวหน้าของเรานั่นเอง นอกจากนี้ ความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำลายผิว เพราะเมื่อเรารู้สึกเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งไปลดระดับคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวไม่แข็งแรง ไม่สามารถเก็บรักษาความชุ่มชื้นได้ การจัดการความเครียดจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษาสุขภาพผิวของเรา
5. สม่ำเสมอเท่านั้นที่ครองโลก!
กุญแจสู่การมีผิวแบบ Cloudless Skin คือการทำทุกอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ เพราะเราเจอมลภาวะเพิ่มทุกวัน เมื่อไหร่ที่เราหยุดดูแลผิว ผิวก็จะแย่ลง และทำให้การดูแลที่ผ่านมานั้นสูญเปล่า ถึงแม้ว่าการ
ทำงาน หรือการเรียนในแต่ละวันจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ลองคิดถึงผลลัพธ์ผิวที่คุณอยากมี ก้าวข้ามความขี้เกียจนั้นให้ได้ แล้วคุณจะได้มีผิวสวย กระจ่างใส ไร้ริ้วรอยและจุดด่างดำ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเทรนด์ที่ดูเป็นไปได้ยากกับการมี ‘ผิวเด็ก’ แต่การตั้งไว้เป็นเป้าหมาย เพื่อเริ่มต้นจริงจังกับการดูแลผิวของตัวเองก็เป็นสิ่งที่ดี ผิวดีชีวิตก็ดี! ไม่ต้องแต่งหน้าเยอะก็สวย และที่สำคัญคือทำให้คุณรักและรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้น
อัพเดทเทรนด์ใหม่สาวเกาหลี ทั้งเทรนด์ความงาม และแฟชั่น พร้อมพบกับบูธสกินแคร์ และเครื่องสำอางจากเกาหลีหลากหลายแบรนด์ ในราคาพิเศษสุด! ในงาน Korea Culture & Tourism Festival 2018 วันที่ 6 – 7 ตุลาคมนี้ ที่ GMM Live House ชั้น 8 Central World ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : KTO Thailand หรือเว็บไซต์ http://koreafestival2018.com