เมืองไทยเรานั้นเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามานานหลายร้อยปี มีวัดวาอารามเป็นจำนวนมาก ให้คนเข้าไปกราบไหว้ ถือศีล หรือปฏิบัติธรรม เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และสั่งสอนให้เราเป็นคนดี นอกจากนี้วัดแต่ละที่ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสถาปัตยกรรมที่สวยงามและวัฒนธรรมที่น่าชื่นชม
วันศุกร์นี้ก็ถึงคราวของวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง นั่นคือวันอาสาฬหบูชา หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุก ๆ ปี ซึ่งหลายคนอาจจะกำลังมองหาวัดที่อยากจะไปทำบุญและถ่ายรูปออกมาแล้วสวยด้วยในเวลาเดียวกัน วันนี้ Lady issue จะมาแนะนำ 5 วัดน่าไปใกล้ กทม. ที่ทั้งสวยและอลังการ เหมาะสำหรับสายบุญให้ได้ไปเที่ยวกันนะคะ
วัดไชยวัฒนาราม จ.อยุธยา
หากใครกำลังอินกับละครบุพเพสันนิวาส ก็คงจะรู้จักกันดีกับวัดนี้ แถมยังเป็นหนึ่งในโบราณสถานของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2535 อีกด้วย
สถาปัตยกรรมการก่อสร้างของวัดไชยฯ มีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกันบริเวณตรงกลางของพื้นที่ และรายล้อมด้วยปรางค์บริวาร อีก สี่องค์
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเวลา 08.00–18.00 น. และประมาณ 19.30 – 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถานทุกวัน
ค่าเข้าชม : คนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
การเดินทาง
– รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพใช้ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด (อุดรรัถยา) มุ่งหน้าอยู่จังหวัดอยุธยา จากนั้นเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 347 ประมาณ 20 กิโลเมตร เลี้ยวขวาที่สี่แยกวรเชษฐ์ วิ่งทางตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร เตรียมชิดซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพาน (มีป้ายบอกทางชัดเจน) เมื่อกลับรถแล้ววิ่งต่อไปอีกราว 300 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางเข้าวัด ขับต่อไปอีก 700 เมตร วัดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ
– รถสาธารณะ ขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งหมอชิต / ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต หรือนั่งรถไฟ ลงในตัวเมืองอยุธยา แล้วต่อรถตุ๊กตุ๊กจากตลาดเจ้าพรหมไปวัดไชยวัฒนาราม
วัดอรุณ” หรือ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
2. “วัดอรุณ” หรือวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร” เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี เพราะความงดงามทางสถาปัตยกรรมอันประเมินค่าไม่ได้ กลายเป็นเอกลักษณ์ความสวยงามประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ของเรานี่เอง
วัดนี้ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมาก
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30 – 17.30 น.
ค่าเข้าชม : คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท
การเดินทาง
– ทางเรือ สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเตียน ต่อด้วยนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งพระนครมาลงท่าเรือหน้าวัดอรุณฯ ได้เลย
– ทางรถ จากถนนปิ่นเกล้า เลี้ยวเข้าถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลศิริราช ตรงมาเรื่อย ๆ จนถึงกรมอู่ทหารเรือ จะเห็นทางเข้าวัดอรุณฯ อยู่ถัดไปไม่ไกล
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์
3. วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี และเพื่อเป็นที่สืบพระศาสนา ให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทยต่อไป
จุดเด่น
เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต องค์เจดีย์สร้างเลียนแบบดอกบัว มีชั้นซ้อนกัน 7 ชั้น สีสันขององค์เจดีย์เกิดจากกระเบื้องสี มุก ลูกปัด แก้ว แหวน เงินทอง ถ้วยชามเบญจรงค์ เซรามิคหลากสีสัน มาประดับตกแต่งเกิดเป็นลวดลายและสีสันที่งดงาม
มหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ มีความสูงของตัวอาคาร 6 ชั้น นับรวมความสูงทั้งหมด 45 เมตร โดยส่วนของชั้นที่ 1 และ 2 จัดเป็นที่พักของผู้เข้าปฏิบัติธรรม ส่วนบริเวณอื่นๆ ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ เช่น การสวดมนต์ ฟังธรรม การปฏิบัติภาวนา
เวลาเปิด – ปิด : เขตพุทธาวาส ทุกวัน 08:00– 17:00 น
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน จากนั้นเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ขับบนเส้นทางนี้ราว 270 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 12 ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณแยกอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง แล้วขับต่อบนถนนเส้นนี้อีกราว 20 กิโลเมตร ในเส้นทางที่จะไปแยกแคมป์สน มีจุดสังเกตคือ อบต.แคมป์สนอยู่ทางขวามือ ตรงไปแล้วกลับรถ ทางเข้าวัดจะอยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดง ข้างๆ อบต.แคมป์สน
รถโดยสารสาธารณะ
เลือกลงสถานีปลายทางได้ 2 สถานีคือ
1. สถานีหล่มสัก จากนั้นเรียกรถต่อไปยัง จ.พิษณุโลก ลงที่หน้าตลาดห้วยไผ่ ปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดง แล้วเดินประมาณ 10 นาทีจะเห็นสะพานทางเข้าวัดทางด้านขวามือ
2. สถานีในตัวเมืองเพชรบูรณ์ แล้วต่อรถโดยสารในตัวเมืองไปยังตำบลแคมป์สน ลงรถที่หน้า อบต.แคมป์สน หรือหน้าตลาดห้วยไผ่
วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา
4. วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ใกล้วัดราชบูรณะ ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีสิ่งที่โดดเด่น คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้ โดยเศียรพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปหินทราย เหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไปและเศียรพระพุทธรูปเป็น “ศิลปะอยุธยา” วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความงดงามแปลกตา เลื่องลือจนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและ เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เวลาเปิด – ปิด: ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. (ตั้งแต่ เวลาประมาณ 19.30น.-21.00น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน)
ค่าเข้าชม: คนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ เข้าตัวเมืองอยุธยาแล้วข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตรงไปจนถึงสี่แยกไฟ แดงที่ 2 เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกลนัก ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุก วันตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท หมายเหตุ ตั้งแต่ เวลาประมาณ 19.30น.-21.00น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน
รถสาธารณะ
จากสถานีหมอชิตใหม่ มีบริการรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทุกวัน วันละ หลายเที่ยว ทั้งรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 กรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา และรถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 กรุงเทพฯ-ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร-พระนครศรีอยุธยา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2936 2852-66 หรือที่เว็บไซต์ www.transport.co.th หรือรถตู้โดยสารจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต นั่งรถมาลงสุดสายจาก นั้นต่อรถมอเตอร์ไซต์หรือ รถท้องถิ่นไปยังวัดมหาธาตุ
วัดบ้านไร่ หรือ วิหารเทพวิทยาคม
5. วัดบ้านไร่ หรือ วิหารเทพวิทยาคม” วัดหลวงพ่อคูณ ปริสุโธ “กูจะทำให้ชาวบ้าน เพื่อตอบแทนข้าวน้ำ ที่เขาให้กูกินทุกวัน” … จากปณิธานของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่ต้องการให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ มีงานทำตลอดไป วิหารเทพวิทยาคม ณ วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา จึงจัดสร้างขึ้นด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของบรรดาศิษยานุศิษย์ที่มีศรัทธาอันมั่นคงต่อเจตนารมณ์ อีกทั้งเพื่อต้องการให้ “วัดบ้านไร่” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา วัฒนธรรม และศิลปกรรมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา และวัดนี้เป็นสิ่งปลูกสร้างสูง 5 ชั้น กลางบึงน้ำวัดบ้านไร่
เวลาเปิด – ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม: 30 บาท
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร ถึงตัวเมืองสระบุรี เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรีแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 89 กิโลเมตร จะถึงเขื่อนลำตะคอง ขับตรงไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะพบกับป้ายบอกทางถนนสาย 201 กับถนนสาย 24 ให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนสาย 201 (ไปจังหวัดชัยภูมิ) จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่อำเภอด่านขุนทด พอถึงอำเภอด่านขุนทดให้ท่านขับตรงไปอีก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 2217 จากนั้นขับตรงไป ประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะถึง “วัดบ้านไร่”
เป็นยังไงกันบ้างคะ ใกล้ๆ กทม. เราก็มีวัดสวยๆ เยอะมากเลยใช่ไหมล่ะ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแบบนี้ สาวๆ อย่าลืมที่จะเข้าวัดทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวกันนะคะ แต่ถ้าใครอยากจะถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชี่ยล lady issue ก็ขอแนะนำวัดทั้ง 5 วัดที่เราคัดแล้วคัดอีก มาให้สาวๆ ได้ไปลองเที่ยวชมกัน ขอให้มีความสุขกับวันหยุดยาวนี้นะคะ สวัสดีค่า
cr : travel.mthai.com/ travel.kapook.com/ review.tourismthailand.org/
อัพเดทข่าวสารนิตยสารผู้หญิงผ่านทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @ladyissue (มี@นำ)