เคยมั้ยคะ ที่ออกจากบ้านไปแล้วเพื่อนหรือคนรอบข้างมองแปลกๆ บางคนอาจจะทักตรงๆ แต่บางคนก็ได้แค่เม้ามอยอยู่ไกลๆ ลองสำรวจตัวเองดูยัง!? นั่นอาจเป็นเพราะคุณอาจแต่งหน้าพลาดออกจากบ้านก็ได้นะ!! ถ้ายังไม่รู้ว่าผิดพลาดอะไร เขยิบมาใกล้ๆ แล้วจด 8 ข้อนี้ไว้ด่วนๆ จะได้ไม่ทำพลาดซ้ำอีก #เตือนแล้วนะ
1. แต่งหน้าแต่ไม่ยอมปัดแก้ม
บางคนอาจจะบอกว่าก็แต่งตาสโมกกี้หนักขนาดนี้ ปัดแก้มอีกชั้นก็เป็นลิงสิจ๊ะ! หรือบางคนอาจจะอยากแต่งหน้าใสๆ เหมือนไม่แต่งหน้า แต่กลับไม่ยอมปัดแก้มเพราะคิดว่ามากไป บอกได้เลยว่าผิดถนัด เพราะการปัดแก้มไม่ได้แปลว่าต้องปัดหนักมือจนแก้มแดงเสมอไป อาจจะแค่ใช้ครีมบลัชแตะเบาๆ ให้ดูระเรื่อ หรือปัดด้วยแปรงสัก 2-3 ที เหมือนหน้าเลือดฝาด แค่นี้ก็ลดอายุได้ตั้งเยอะ ไม่ดูหน้าแก่หรือซีดเกินไป
2. รองพื้นหนาเป็นหน้าเค้ก
จะแต่งหน้าให้สวย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหนาของรองพื้นเสมอไปหรอกนะจ๊ะ บางคิดว่าตัวเองหน้าเป็นสิว มีรอยแผล ก็โบกรองพื้นจนนึกว่าฉาบปูน ลองปล่อยให้หน้าสวยแบบใสๆ รองพื้นไม่เกิน 2 ชั้นก็มากพอแล้ว ส่วนจุดไหนอยากปกปิดมากหน่อยก็ค่อยเอาแปรงแต้มปิดรอยไปทีละจุด ไม่ใช่โบกรวดเดียวทั้งหน้าจนรองพื้นตกร่อง พากันปริแล้วก็แตกตัวเป็นรอยริ้วๆ ไปทั่วหน้า พาให้แก่ไม่รู้ตัวไปอีก
3. ทาคอนซีลเลอร์ใต้ตาจนขาวเป็นวงๆ
ก็เข้าใจว่าสาวๆ ไม่อยากมีใครตาดำเป็นแพนด้าอยู่แล้ว แต่ถ้าแก้ปัญหานั้นด้วยการโบกคอนซีลเลอร์เป็นวงๆ อยู่รอบดวงตา ทั้งหนาแล้วหนาอีกจนขาวเป็นดวงๆ อยู่จุดเดียวบนหน้า ลองคิดสภาพสิว่าจะดูตลกแค่ไหน ขอเถอะจ้ะแก้ปัญหานี้ด้วยการทาคอนซีลเลอร์เนื้อเบาๆ เป็นรูปสามเหลี่ยมกลับหัวแทน แล้วค่อยๆ ใช้ฟองน้ำหรือแปรงเกลี่ยให้เนียน แค่สีอ่อนๆ ของคอนซีลเลอร์ก็กระจายแสงให้ดูมีมิติได้ แบบไม่ต้องโบกหนักหรอกนะค้า
4. กรีดอายไลเนอร์ทุกอณูรอบดวงตา
เพราะอยากดูตาชัดๆ ปังๆ หลายคนก็เลยจัดหนักเขียนขอบตากันแบบไม่เหลือที่ว่าง ทั้งขอบตาบน ขอบตาล่างจัดเต็ม ไม่เว้นแม้กระทั่งลากหางเลยตาออกไปด้วย รู้มั้ยว่าการกรีดตาให้เส้นหนาเท่ากันทั้งหมดอย่างไม่มีชั้นเชิง จะทำให้ตาดูเล็กลงมากๆ แถมยังดูตาบอบช้ำเหมือนผ่านศึกอดนอนขนาดหนักมาด้วย แค่กรีดความหนาแค่ช่วงหางตา แล้วไล่เส้นเล็กลงเรื่อยๆ ถ้าใครตาเล็กให้กรีดถึงแค่กลางตาก็สวยแล้ว ไม่ต้องไปถึงหัวตาก็ได้จ้า
5. คิ้วบางเฉียบ แถมยังโก่งอีก!
เทรนด์ช่วงนี้เค้าก็บอกอยู่ ว่าถ้าอยากหน้าเด็กต้องเขียนคิ้วตรงๆ แบบสาวเกาหลีเท่านั้น จะฝืนเขียนคิ้วบางๆ โก่งเป็นคันศรเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อนอยู่ทำไมล่ะจ๊ะ รู้มั้ยว่ามันทำให้ดูแก่ขึ้นเหมือนรุ่นคุณป้าเลยทีเดียวนะ ลองเพิ่มความหนาให้คิ้วมากขึ้นอีกหน่อย แต่ยังคงดูเป็นธรรมชาติ แล้วเขียนคิ้วให้ฟุ้งๆ ด้วยสีอ่อนๆ แค่นี้ก็ไม่ต้องทนหน้าแก่ให้ใครแซวแล้วค่า
6. ปัดบรอนเซอร์มากไป นึกว่าไปทำไร่มา
ยุคนี้งานคอนทัวร์หน้าชัดกำลังมาแรง สาวๆ หลายคนเลยเบื่อแนวหน้าขาว มาเน้นปัดบรอนเซอร์ให้ดูบ่มแดด จะได้เฉดดิ้งหน้าเรียวให้ดูสวยมีสุขภาพดีครบเซ็ต แต่ปรากฏว่าปัดเพลินจนกลายเป็นหน้าดำ จากที่ดูบ่มแดดก็กลายเป็นคนตรากตรำทำงานกลางแดดแทนซะมากกว่า กลายเป็นว่าหน้าดูแก่กว่าเดิมไปซะอีก จำไว้ว่าควรค่อยๆ ปัดอย่างเบามือ ถ้าไม่พอใจก็ค่อยเติมเข้าไปใหม่ก็ได้ แต่ถ้าปัดจนเข้มแล้วจะมาลบนี่เรื่องใหญ่กว่านะจ๊ะ
7. ติดขนตาปลอมเกินจริง
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าขนตาปลอม อย่าไปติดเยอะติดแยะให้ดูเกินจริงมากไป และอย่าติดให้ตกเกินหางตาออกมามากนัก เพราะจะทำให้ตาดูตก และดูเศร้าตลอดเวลา กลายเป็นพาให้หน้าแก่ขึ้นได้ ลองเลือกขนตาที่ดูเป็นธรรมชาติ แล้วติดทีละช่อให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือซ้อนขนตาแค่บางจุด ไม่ใช่หนาหนักเท่ากันหมดทั้งตา ไม่มีความเป็นธรรมชาติเลยสักนิ๊ด
8. เฉดดิ้งจมูกแคบและยาวเว่อร์
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ารูปจมูกยาวๆ จะทำให้หน้าดูแก่ขึ้นกว่าเดิม จึงเฉดดิ้งจัดหนักตั้งแต่ข้างจมูกไปยันปีกจมูก เพราะอยากให้ดูเรียวยาว ดั้งโด่ง จริงๆ แล้วการเฉดดิ้งจมูกแค่เริ่มต้นจากแถวๆ หัวตา (ไม่ใช่หัวคิ้วนะ) ลากลงมาที่ปลายจมูก จากนั้นเกลี่ยให้เนียนแล้วค่อยเอาส่วนที่เหลือในแปรงเฉดตรงปลายจมูกให้ดูเชิดขึ้นเบาๆ แค่นี้ก็หายหน้าแก่กลายเป็นหน้าเด็กลงได้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก dailymakeover
ขอบคุณภาพจาก brushdust, zwallpix, makeupbyingrid, divinecaroline, caocosmeticsusa, telegraph, youresopretty