ขวาร้ายซ้ายดี เป็นคำที่ได้ยินกันบ่อยๆ เลยนะคะ เวลาที่ตากระตุก ถ้าเป็นตาขวากระตุก ก็เชื่อว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ แล้วถ้าเป็นตาซ้ายกระตุกก็จะเกิดแต่เรื่องดีๆ แต่ว่าถ้าตากระตุกทั้งวันแบบไม่หยุด บอกเลยค่ะว่า เป็นเรื่องไม่ดีที่เกี่ยวกับสุขภาพดวงตาของสาวๆ แล้วค่า แล้วไม่ดียัง ตามมาดูสาเหตุและวิธีการแก้ไขในเบื้องต้นกันดีกว่าค่า
อาการตากระตุก เกิดจาก
โดยอาการตากระตุกที่ผิดปกติจะเริ่มตั้งแต่ตากระตุกทั้งวัน ที่ก่อให้เกิดความรำคาญในแต่ละวันนะคะ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตากระตุก แพทย์สันนิฐานเอาไว้ว่าเป็นเพราะ
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ
- มีอาการตาล้าจากการมองจอมากเกินไป
- แสง ลม ตาแห้ง ก็ทำให้เกิดอาการตากระตุกได้นะคะ
นอกจากปัจจัยภายนอกในข้างต้นแล้ว อาการตากระตุกก็เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย ที่เกิดจากโรคบางอย่างก็มีนะคะ มาลองสำรวจกันค่า
- ผลข้างเคียงจากยาบางตัว ก็ทำให้เกิดอาการตากระตุกได้
- กล้ามเนื้อตาทำงานผิดปกติ
- โรคอัมพาตใบหน้า
- มีโรคที่เกิดจากประสาทและสมอง เช่นโรคกล้ามเนื้อบิดเกร็งเป็นต้น
หากตากระตุกไม่หายเป็นระยะเวลามากกว่า 2 อาทิตย์ ลืมตาลำบาก เกิดอาการบาดเจ็บที่กระจกตาทุกครั้งที่ตากระตุก ต้องรีบไปหาหมอแล้วนะคะ เพราะเป็นสาเหตุที่อาจจะเกิดจากโรคอื่นๆ ได้
แต่ถ้าใครเกิดอาการตากระตุกทั้งวัน แต่หายในวันนั้น ก็ยังไม่ต้องพบแพทย์นะคะ แต่มันก็น่ารำคาณกันใช่ไหมคะ เรามีวิธีแก้อาการตากระตุกในเบื้องต้นมาฝาก จะมีวิธีไหน ก็ตามมาดูกันเลยค่า
1. นวดดวงตาเป็นเวลา 30 วินาที
วิธีแรกจะเป็นการนวดดวงตากันก่อนนะคะ โดยจะใช้ปลายนิ้วชี้และกลางนวดบริเวณใต้ตาล่าง หมุนเป็นวงกลม นับในใจราวๆ 30 วินาทีแล้วปล่อย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อตาค่ะ
2. หลับตาลงแน่นๆ เป็นเวลา 1นาที
วิธีที่สองคือ ให้หลับตาลงแน่นๆ นะคะ แล้วค้างเอาไว้ 1 นาทีก่อนจะคลายออก แต่ไม่ลืมตาน้า เพื่อบริหารให้กล้ามเนื้อตาแข็งแรง ทำซ้ำอยู่แบบนี้ คือหลับตาลงแน่นๆ 1 นาที แล้วคลายออกโดยไม่ลืมตา แล้วหลับซ้ำจนครบ 3 รอบ ก็ช่วยให้ดวงตาหายกระตุกได้ค่า
3. กระพริบตาถี่ๆ
เวลาที่เกิดอาการตากระตุกจนรู้สึกรำคาณ ให้ลองหลับตาลงแล้วกระพริบตาถี่ๆ ต้องระวังไม่ให้เกิดอาการเจ็บนะคะ วิธีนี้จะช่วยเรียกน้ำตาให้เคลือบดวงตาจนเกิดความชุ่มชื้นและสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อดวงตาจนหยุดอาการตากระตุกได้ค่า
4. พรมน้ำอุ่นกับน้ำเย็นลดอาการตากระตุก
เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เราสามารถใช้น้ำอุ่นลูบดวงตาก่อน ให้หลอดเลือดขยายตัวนะคะแล้วค่อยใช้น้ำเย็นลูบซ้ำเพื่อทำให้หลอดเลือดหดตัว ทำซ้ำระหว่างน้ำเย็นและน้ำอุ่นแบบนี้ประมาณ 10 ครั้ง ก็ช่วยหยุดอาการตากระตุกได้ค่ะ
5. หยอดน้ำตาเทียม
หากดวงตาแห้งด้วยแล้วเกิดอาการตากระตุก สามารถใช้น้ำตาเทียมหยอดลงบนดวงตาเพื่อให้ความชุ่มชื้นได้นะคะ ทำเป็นประจำโดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานในห้องแอร์ต้องไม่ควรปล่อยให้ตาแห้งเลยค่า ดวงตาจะได้ไม่อ่อนล้าจนเกิดอาการตากระตุกได้ค่ะ
6. ประคบร้อนบนดวงตา
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้มาเลี้ยงดวงตาได้นะคะ เมื่อเลือดไหลเวียนมาเลี้ยงดวงตาก็ทำให้หยุดอาการตากระตุกได้เช่นเดียวกัน
สามารถใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบกับน้ำอุ่นแล้วนำมาประคบดวงตาสัก 30 วิธีนี้ ก็ช่วยหยุดอาการดวงตากระตุกได้ หากไม่หายในครางเดียว ทำซ้ำสัก 3 ครั้งก็ได้ค่า
7. นอนหลับให้เพียงพอ
ต้นเหตุส่วนใหญ่ของอาการตากระตุกเลยค่า ใครที่เกิดอาการตากระตุกไม่หยุดเลยทั้งวัน ให้เข้านอนให้เร็งขึ้นเพื่อพักสายตา ให้ดวงตาหายจากอาการล้าที่เกิดจากการมองจอทั้งวันได้ค่ะ
8. ลดการดื่มกาเฟอีน
กาเฟอีนจาก ชา, กาแฟ, และน้ำอัดลม เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตากระตุกได้นะคะ ควรลดเครื่องดื่มเหล่านี้ลง ก็จะช่วยลดอาการตากระตุกลงได้ค่ะ
9. งดการดื่มแอลกอฮฮล์
เช่นเดียวกับกาเฟอีนค่า แอลกอฮอล์ทำให้ผิวและดวงตาแห้งได้ ดังนั้นหากเกิดอาการดวงตากระตุก ลดหรืองดได้ ก็ควรทำนะคะ เท่านี้ก็ช่วยหยุดอาการดวงตากระตุกจน่ารำคาณได้ค่ะ
10. หลีกเลี่ยงความเครียด
ความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุทำทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าอ่อนเพลียได้นะคะ ซึ่งความอ่อนเพลียเหล่านี้ก็ทำให้ดวงตาอ่อนล้าได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นควรหากิจกรรมทำเพื่อคลายความเครียด ก็ช่วยได้เหมือนกันค่า
ใครที่เกิดอาการดวงตากระตุกทั้งวันแบบไม่หยุด ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้เพื่อแก้ได้ในเบื้องต้นนะคะ แต่หากเกิดอาการตากระตุกนานกว่า 2 อาทิตย์แล้วไม่หาย ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้องกันด้วยนะคะ
Credit : stylecraze.com, lesbos.webcam, fabhow.com, newbranch.info, somosestilo.byclaro.com.ec, dharitri.com, webmd.com, hellodoktor.com, amreading.com
อัพเดทข่าวสารนิตยสารผู้หญิงผ่านทาง LINE ฟรี
Add friend ที่ ID : @ladyissue (มี@นำ)
290 Comments
Very informative blog post.Really thank you! Keep writing.
It is not my first time to go to see this site, i am visiting this website dailly and obtain nice facts from here all the time.
Hi there this is somewhat of off topic but I was wondering if blogs use WYSIWYG editors or if you have to manually code with HTML. I’m starting a blog soon but have no coding skills so I wanted to get guidance from someone with experience. Any help would be enormously appreciated!
I appreciate you sharing this post.Really thank you! Really Great.
Your way of explaining everything in this paragraph is truly good, all be able to easily be aware of it, Thanks a lot.