เอาล่ะสิคะ ของใช้ใกล้ตัวที่แสนจะจำเป็นของผู้หญิงอย่างเราๆ กลับมีคำเตือนว่ามีสารก่อมะเร็งซะแล้ว เนื่องมีการเปิดสถิติการนำเข้าสารเคมีอันตรายเพื่อการอุตสาหกรรม แล้วก็มีข้อมูลว่า สารเคมีอันตรายบางตัวหลุดรอดออกไปเพื่อผลิตสินค้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างที่เป็นสินค้าที่สาวๆเราใช้กันบ่อยๆ ก็จะมีเป็น สบู่เหลว (อันดับหนึ่งกันเลยทีเดียวค่าาา), ลูกเหม็น, น้ำยาปรับผ้านุ่ม และ น้ำยาล้างเล็บ … แต่ส่วนผสมพวกนี้ ไม่ได้ให้ผล ให้เราเป็นแบบ ปุบปั้บ เป็นเลยอะไรอย่างนี้นะคะ แค่ใช้ไปนานๆ แล้วเราก็จะสั่งสมสารเคมีพวกนี้ไว้ในร่างกาย จนเกิดเป็นมะเร็งในร่างกายได้
โดยตามข้อมูลนะคะ สำนักงาน อย. ระบุอันตรายในผลิตภัณฑ์เพื่อชีวิตประจำวันต่างๆ ยอดนิยมที่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายแต่ลิตาจะนำเสนอส่วนที่สาวๆเราใช้กันเป็นประจำนะคะ โดยมีที่จะต้องใช้ไว้อย่างระมัดระวัง 3 อันดับดังนี้
อันดับ 1. สบู่เหลวค่ะ
สบู่เหลว นับเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่พวกเรานิยมใช้กันมากที่สุด โดยตามหลักการผลิตที่ถูกต้องแล้ว จะต้องมีเนื้อสบู่อย่างน้อย 25 % ผสมกับน้ำ แต่ในประเทศไทยไม่มีสบู่แบบนี้ขายนะคะ ที่มีขายก็จะเป็นแบบมีส่วนผสมจากสารซักฟอกหรือดีเทอเจนผสมกับสารเคมีสังเคราะห์อื่นๆ เพื่อให้สบู่อยู่ในรูปของของเหลว โดยผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้สบู่เหลวสามารถสะสมเป็นปัญหาในระยะยาว คือสารพวกนี้จะสะสมซึมลงไปในผิวหนัง เพราะเป็นสารเคมีที่ดูดซึมผ่านผิวหนังได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถสะสมอยู่ในดวงตา สมอง หัวใจ ตับ และก่อปัญหาในระยะยาว
หากยิ่งมีการใช้ร่วมกับสารประกอบตระกูลอามีน ก็จะกลายเป็นสารก่อมะเร็งในที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมของสาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) และ PEG (polyethylene Glycol) ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์โดยตรง ทำให้ปัจจุบันหลายประเทศในยุโรปและอเมริกามีกฏหมายห้ามใช้แล้ว และบางประเทศก็จำกัดให้มีการใช้น้อยลง แต่ในประเทศไทยกลับยังนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
2. น้ำยาปรับผ้านุ่ม
น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในชีวิตประจำวันอีกชนิดหนึ่ง โดยในน้ำยาปรับผ้านุ่มมีส่วนประกอบสําคัญคือ น้ำมัน ที่ช่วยให้ผ้ามีความเรียบ นุ่ม ป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตช่วยให้รีดได้ง่ายลดการยับของผ้าทําให้สิ่งสกปรกติดเนื้อผ้ายากขึ้น และทําให้ผ้าเปียกน้ำยากขึ้น น้ำมันนี้จะยังคงติดค้างอยู่ในเนื้อผ้าแม้ว่าจะผ่านการซักน้ำและรีดแล้วก็ตาม ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง หรือการสูดดม ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มยังประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายอีกหลายชนิดได้แก่ เอทิลเอซิเทต, เบนซิน เอซีเทต, เบนซิน แอลกอฮอล์เอทานอลและคลอโรฟอร์ม โดยสารเคมีเหล่านี้ต้องควบคุมให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพราะเป็น พิษต่อร่างกายก่อให้เกิดการระคายเคืองและทําลายสุขภาพ มีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ทําให้มึน และเวียนศีรษะ ทําลายตับและไต โรคโลหิตจาง มีผลต่อระบบประสาทและอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้
อันดับที่ 3. น้ำยาล้างเล็บ
น้ำยาล้างเล็บ น้ำยาล้างเล็บไม่ได้มีแค่กลิ่นฉุน ๆ เท่านั้น แต่ยังมีสารอะซีโตน (Acetone) ที่หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก ๆ แม้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ก็สามารถทำให้เกิดอาการแสบจมูก แสบตา มึนหัว อาเจียน ปอด และคอเกิดอาการระคายเคือง หรือหนัก ๆ ก็อาจจะก่อกวนฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลกระทบให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับรอบเดือนได้
แต่เรื่องราวนี้ อ.เจษฎา ก็ออกมาแก้ข่าวทาง FB Jessada Denduangboripant เอาไว้ว่า เจ้าสาร SLS ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เป็นสารที่ก่อให้เกิดการแพ้หรือการระคายเคืองมากกว่า ดังนั้นจึงอยากให้พิจารณาก่อนซื้อ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกันมากเกินไป แต่ลองหาข้อมูลของแต่ละยี่ห้อก่อนซื้อก่อนจะดีกว่านะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก tcijthai, FB Jessada Denduangboripant